โบรกฯเชียร์"ซื้อ" BEAUTY มองผลงาน Q2/60 เติบโตจากยอดขายสาขาเดิมแกร่ง-นักท่องเที่ยวจีนหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 18, 2017 16:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 เติบโตต่อเนื่อง เป็นไปตามยอดขายของสาขาเดิมที่ขยายตัว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กลับเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่ยอดขายจากสาขาเดิมน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องในไตรมาส 3/60 และไตรมาส 4/60 ส่งผลให้กำไรสุทธิของ BEAUTY จะทำจุดสูงสุดใหม่ในทุกไตรมาสของปีนี้

พร้อมกันนี้มอง BEAUTY ยังเป็นหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่มีการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายอื่น ๆ จากจุดเด่นของสินค้า ที่ตอบโจทย์กับคนทุกระดับ ทำให้ตลาดเครื่องสำอางมีการเติบโตมากขึ้นในทุก ๆ ปี

ราคาหุ้น BEAUTY อยู่ที่ 11.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเวลา 16.05 น.สวนตลาด SET ลบ 0.08%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ             ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)             ซื้อ                      14.00
          ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)    ซื้อ                      14.00
          ทิสโก้                         ซื้อ                      13.60
          บัวหลวง                       ซื้อ                      13.30
          เออีซี                         ซื้อ                      13.20
          นางสาวศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BEAUTY ในไตรมาส 2/60 ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากยอดขายสาขาเดิมที่ขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย
          ขณะที่มองภาพรวมทั้งปีนี้ ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโตมาที่ 930 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 656 ล้านบาท และยอดขายที่น่าจะทำได้ 3,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยสิ้นปีที่แล้ว BEAUTY มีสาขาในประเทศอยู่กว่า 300 สาขา และต่างประเทศจำนวนกว่า 180 สาขา และมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศราว 60% รวมถึงยอดขายผ่านออนไลน์ (E-commerce) ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ราว 2-3%
          "เรายังมองว่า BEAUTY เป็นหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่มีการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ให้กับคนทุกระดับไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน ช่างแต่งหน้า นักศึกษา และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีน ทำให้ตลาดยังคงเติบโตไปได้ หรือมากกว่าจีดีพี ขณะที่ BEAUTY ก็มีการขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ และยังมีการขายผ่านออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะเห็นการเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ"นางสาวศศิกร กล่าว
          นายไชยธร ศรีเจริญ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายของ BEAUTY ในไตรมาส 2/60 น่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง มาอยู่ที่ 747 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา ขณะที่คาดกำไรสุทธิก็น่าจะอยู่ที่ 215 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน จากยอดขายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดในประเทศ อย่างร้าน Duty Free , สาขาใหม่ที่ MBK และ Platinum Fashion Mall  และยอดขายผ่านสาขาในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น
          ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 น่าจะชะลอตัวลง จากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดยอดขายสาขาเดิมจะเติบโตได้ราว 7-10% และกำไรน่าจะปรับตัวลดลงราว 20-25% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/59 แต่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากได้รับอานิสงส์ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ปกติจะเข้ามามากช่วงในไตรมาส 3 ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อกำไรสุทธิที่น่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/60 ซึ่งเป็นไตรมาสที่ขายดีที่สุด ทำให้คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้กำไรสุทธิของ BEAUTY จะทำจุดสูงสุดใหม่ทุกไตรมาสจากนี้จนถึงสิ้นปี
          นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า BEAUTY ถือเป็นเพียงบริษัทค้าปลีกรายเดียวที่มีการเติบโตจากยอดขายสาขาเดิมในไตรมาส 2/60 ท่ามกลางภาวะการบริโภคซบเซาและฐานปีที่แล้วก็ทำไว้สูง ทำให้บริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้จึงมียอดขายจากสาขาเดิมหดตัว โดยคาดว่ายอดขายในไตรมาส 2/60 ของ BEAUTY จะเติบโตราว 15% จากไตรมาสก่อนหน้า จากทีมขายที่มีความสามารถ รวมถึงการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทย ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยนั้นรู้จักแบรนด์ของ BEAUTY เป็นอย่างดี และปัจจุบันก็มีผู้ค้าส่ง (wholesalers) จากจีนวางจำหน่ายอยู่แล้ว
          ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/60 แม้จะเป็นช่วงของโลว์ซีซั่นของธุรกิจ และในไตรมาส 4/60 น่าจะเติบโตได้อย่างสดใส จากฐานที่ต่ำในปีก่อน อย่างไรก็ตาม BEAUTY ก็อยู่ระหว่างขยายตลาดไปในประเทศจีน โดยจะนำสินค้าไปวางจำหน่าย คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ในปี 61 จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอ อย.จากจีน (CFDA) ทั้งเครื่องหมายการค้าและใบอนุญาต ซึ่งน่าจะใช้เวลาราว 12-18 เดือน ในการได้รับใบอนุญาต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ