นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า การเปิดเสรีธุรกิจก๊าซแอลพีจีทั้งระบบตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีการแข่งขันในธุรกิจแอลพีจีมากขึ้น เพราะหากไม่มีคู่แข่งก็จะไม่มีการแข่งขันด้านประสิทธิภาพและการลดค่าใช้จ่าย เช่นเดียวกันธุรกิจน้ำมันที่ ปตท. มีการแข่งขันกันอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นธุรกิจแอลพีจีก็ไม่น่าจะมีปัญหาเช่นกัน
นอกจากนี้ ส่วนตัวมองว่าธุรกิจแอลพีจียังเป็นธุรกิจที่มีอนาคต เนื่องจากยังมีความต้องการใช้แอลพีจีในภาคเชื้อเพลิง ขณะที่ภาคปิโตรเคมีก็ยังมีความต้องการใช้แอลพีจีและแนฟทาเป็นวัตถุดิบ
นายเทวินทร์ กล่าวว่า ปตท.เองก็ได้ปรับแผนดำเนินการเพื่อรองรับการเปิดเสรีดังกล่าว โดยขณะนี้ ปตท.มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการนำเข้า ซึ่งผู้ค้าแอลพีจีรายอื่นสามารถเข้ามาใช้ได้ อย่างไรก็ตาม มองว่าปัจจุบันปริมาณการผลิตแอลพีจีในประเทศจากทั้งโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาติเพียงพอกับความต้องการใช้ภายในประเทศ ขณะที่ ปตท.นำเข้าแอลพีจีเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย