นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า วันนี้สายการบินไทยสมายล์ และสายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ ได้รับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC) เป็นสายการบินรายที่ 7 และ 8
“ความสำเร็จในวันนี้ เป็นการเพิ่มความมั่นใจในศักยภาพของสายการบินสัญชาติไทย เนื่องจากสายการบินไทยสมายล์ และไทย ไลอ้อน แอร์ เป็นสายการบินรายที่ 7 และ 8 ที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่จาก กพท. ซึ่งทั้ง 2 สาย ได้ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละที่จะแก้ไข ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยของตน ให้ได้ตามมาตรฐานที่กพท. กำหนด ซึ่งผู้ใช้บริการของทั้ง 2 สายการบินดังกล่าวจะสามารถมั่นใจได้ถึงมาตรฐานด้านความปลอดภัยของระบบบริหารจัดการองค์กร การปฏิบัติการบิน การให้บริการในห้องโดยสาร และระบบการซ่อมบำรุง"นายจุฬา กล่าว
ด้านนายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยสมายล์ กล่าวว่า สายการบินไทยสมายล์ ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในการตรวจสอบและออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ตามมาตรฐาน ICAO ซึ่งใบรับรองที่เราได้รับในวันนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงมาตรฐานในระดับสากลของสายการบิน โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยที่ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการให้บริการ และเป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนของเรายึดถือปฎิบัติมาโดยตลอด ซึ่งหลังจากนี้ ทางสายการบินก็ยินดีที่จะร่วมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปลดธงแดงได้ตามกรอบที่วางเอาไว้ พร้อมยกระดับมาตรฐานการบินของประเทศต่อไป
ขณะที่นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ระบุว่า สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ได้เน้นย้ำถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานอย่างสม่ำเสมอ และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในการตรวจสอบและประเมินผลทุกขั้นตอนจนได้รับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ตามมาตรฐาน ICAO โดยในวันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันให้สายการบินราคาประหยัดได้เป็นอย่างดีและพร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสู่ระดับสากลของวงการการบินของประเทศไทย ทั้งนี้สายการบินยินดีที่จะร่วมสนับสนุน และส่งเสริมอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทยอย่างเต็มที่เพื่อนำไปสู่การปลดธงแดงตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ กพท. ได้มอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ ให้กับสายการบินของไทย รวมในครั้งนี้แล้วทั้งหมด 8 สายการบิน และยืนยันว่าระหว่างนี้จะยังคงดำเนินการตรวจสอบสายการบินระหว่างประเทศที่ยังคงเหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2560 สายการบินทั้งหมดที่ได้รับ AOC จะมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้นคิดเป็นร้อยละ 98 ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดที่ใช้บริการเข้า-ออกประเทศไทย และจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการที่ ICAO จะเข้ามาตรวจสอบ ICVM (ICAO Coordinated Validation Mission) เพื่อปลดธงแดง ตามที่ กพท. ได้ยื่นขอไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2560