ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,577.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.99 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 20,982.61 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,579.39 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,574.91 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แม้ว่าจะอยู่ในแดนบวก แต่ก็ยังคงแกว่งแคบ โดยตลาดฯได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน อาจเป็นเพราะมองถึงการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกโอเปก ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะหารือกันเกี่ยวกับมาตรการที่ดำเนินการกันอยู่
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/60 ของกลุ่มแบงก์ที่ออกมาก็ไม่ได้แย่มาก เพียงแต่ผลประกอบการของแบงก์ขนาดเล็กจะดีกว่าแบงก์ขนาดใหญ่ ที่มีการตั้งสำรองฯมาก ทั้งนี้ ตลาดฯจึงยังมี Upside จำกัด จะขึ้นก็ยังไม่ค่อยไหว แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่า ซึ่งก็น่าจะเป็นแรงจูงใจให้เงินไหลเข้ามา แต่เท่าที่ดูยังไม่ชัดเจน โดยส่วนหนึ่งนักลงทุนต่างชาติอาจจะยังอยากรฮดูการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของประเทศหลัก ๆ ก่อนก็ได้ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณลดการดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แต่ก็ยังต้องรอดความชัดเจนในเดือนก.ย.อีกที
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบในกรอบ 1,570-1,580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 2,975.60 ล้านบาท ปิดที่ 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 940.55 ล้านบาท ปิดที่ 181.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 919.82 ล้านบาท ปิดที่ 16.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 913.95 ล้านบาท ปิดที่ 50.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 681.10 ล้านบาท ปิดที่ 198.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท