หุ้น CPALL เช้านี้ปรับขึ้น 1.23% มาที่ 61.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 349.06 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.58 น. ราคาเปิดตลาดที่ 60.75 บาท ราคาปรับขึ้นทำระดับสูงสุดที่ 61.75 บาท ราคาทำระดับต่ำสุดที่ 60.75 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ให้ราคาพื้นฐานที่ 75 บาท หลังมองว่ากำไรหลักของ CPALL ในไตรมาส 2/60 จะยังเติบโตได้เป็น 4.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตรากำไรขั้นต้นที่มากขึ้นในธุรกิจค้าส่ง หลังยกเลิกการให้ส่วนลดแก่ผู้ซื้อสินค้าจำนวนมาก ด้านรายได้เพิ่ม 3.1% จากงวดปีก่อน เนื่องจากมีการขยายสาขาเพิ่ม แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจคอนวิเนียน สโตร์ (CVS) จะอ่อนลงบ้างเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะต้นทุนเชื้อเพลิงที่มากขึ้นและรายได้อื่นที่ปรับลดลง เช่นบัตรเติมเงินโทรศัพท์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/60 อัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (SSSG) เป็นลบ สำหรับทั้งธุรกิจ CVS และค้าส่ง (cash and carry) เนื่องจากปัจจัยลบจากภาวะการบริโภคที่อ่อนลง ฐานที่สูงในปีที่แล้ว รวมถึงไม่มีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ เทศกาลสงกรานต์ที่หมดไป และปีนี้เกิดฝนตกเร็ว
สำหรับการขยายสาขาของร้าน 7-11 ได้มาถึงจำนวน 10,000 แห่งแล้ว ในเดือน ก.ค.60 นี้ หลังจากปลายปี 60 อยู่ที่ 9,542 แห่ง หรือเพิ่มขึ้น 458 แห่งคิดเป็น 65% จากเป้าเปิดปีนี้ที่ 700 แห่ง ถือว่าทำได้สูงกว่าเป้า ด้านเป้าหมายปี 64 คือเพิ่มเป็น 13,000 แห่ง
ส่วนการเปิดสาขาของบมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ชะลอเปิดลง เพราะเดิมเปิดในทางเชิงรุกมากคือเปิดปีละ 13-14 แห่ง ปัจจุบันเพิ่มมาเท่าตัวเป็น 106 แห่งแล้ว ตั้งแต่บริษัทซื้อมาปี 56 แต่มีโอกาสเปิดสาขาต่างประเทศ สาขาแรกคาดว่าจะเป็นประเทศกัมพูชา ทางบริษัทยังคงเน้นการเพิ่มอัตรากำไร ด้วยการจำหน่ายสินค้าที่ให้อัตรากำไรสูงเช่น อาหารและเครื่องดื่มพร้อมรับประทาน และสินค้าเสริมความงาม