นายสุพจน์ เหล่าสุอาภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ รับผิดชอบกำกับดูแลสำนักกฎหมาย บมจ.ปตท.(PTT) ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ปตท.กรีนเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) เปิดเผยว่า กรณีที่ปรากฏข่าวเกี่ยวกับกระบวนการขายโครงการต่าง ๆ ของ PTTGE ซึ่งดำเนินธุรกิจปาล์มน้ำมันในประเทศอินโดนีเซีย ที่ดำเนินการไปแล้ว 4 ใน 5 โครงการนั้น ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน อาทิ การอนุมัติของคณะกรรมการชุดต่างๆ จนถึงคณะกรรมการของ ปตท.ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดยมีที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาให้คำปรึกษาและดูแลกระบวนการอย่างรอบคอบ ถูกต้อง โปร่งใส ยืนยันการขายไปในราคาที่เหมาะสม
นอกจากนั้น คณะกรรมการตรวจสอบของ ปตท. ยังได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก (Big Four) เข้ามาตรวจสอบการดำเนินการขายโครงการดังกล่าวอย่างละเอียดว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ และให้มารายงานต่อคณะกรรมการ ปตท. ซึ่งที่ปรึกษาได้มารายงานแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงทำให้เชื่อมั่นได้ว่าแนวทางปฏิบัติและการตัดสินใจขายโครงการ มิได้มีปัญหาอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างไร
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวมีที่มาจาก เมื่อปี พ.ศ. 2555 ปตท. ที่มีฐานะเป็นบริษัทแม่ได้ตรวจพบหลักฐานความผิดปกติในการลงทุนจากขั้นตอนการซื้อที่ดินและการบริหารโครงการของ PTTGE ซึ่งดำเนินการลงทุนธุรกิจปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซียในช่วงปี พ.ศ. 2550 จึงได้ทำการสอบสวนและลงโทษทางวินัยผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง พร้อมส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) พิจารณาสอบสวนและยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งตามหลักปฏิบัติธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ของกลุ่ม ปตท. พร้อมกับที่คณะกรรมการ ปตท. พิจารณายกเลิกการลงทุนและให้ดำเนินการขายทรัพย์สินเพื่อรักษาประโยชน์ขององค์กร
ปัจจุบัน ปตท. มีคดีที่ได้เป็นโจทก์ร่วมกับ PTTGE ยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ คดีที่ยื่นศาลแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท อันเป็นมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลงทุน นอกจากนี้ หน่วยงานตรวจสอบภายใน ปตท. ได้ตรวจพบความผิดปกติจากความเสียหายของการลงทุน ซึ่งพบว่าเกี่ยวพันกับบุคคลภายนอก ดังนั้น คณะกรรมการ ปตท. จึงได้มีมติส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาตามกฎหมาย โดยปัจจุบันเรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งนี้ผลการตรวจสอบด้านกระบวนการขาย ปตท. จะดำเนินการส่งมอบเพิ่มเติมให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. และศาลแพ่งเพื่อเร่งการพิจารณา และตัดสินเพื่อยืนยันความโปร่งใสและธรรมาภิบาลของ ปตท. โดยเร็วที่สุด
สำหรับกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อว่ามีผู้ฟ้องร้องผู้บริหารและอดีตผู้บริหาร ของ ปตท. เป็นการยื่นฟ้อง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งขณะนี้ศาลฯ รับเอกสารคำฟ้องไว้พิจารณา ยังไม่ได้มีคำสั่ง ประทับรับฟ้องแต่อย่างใด โดยศาลฯ จะมีกำหนดการนัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคดีความของ PTTGE อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล โดยเฉพาะศาลแพ่ง ได้มี คำสั่งมิให้มีการเผยแพร่ข้อมูล ปตท. จึงต้องเคารพต่อคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด