ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,581.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 46,193.66 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,581.96 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,577.32 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 564 หลักทรัพย์ ลดลง 611 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 413 หลักทรัพย์
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ โดยหุ้นในกลุ่มส่งออกหลายตัวที่ปรับตัวลงแรง อันเป็นผลจากเงินบาทแข็งค่า และบางตัวก็เทรด P/E สูงอยู่ ทำให้ไปกดดันตลาดฯ แต่หุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT และหุ้นในกลุ่มสื่อสารก็ปรับตัวขึ้นมาช่วยหนุนตลาดฯ ดังนั้นตลาดฯจึงยังไม่ไปไหน และตลาดฯคงจะอยู่ในลักษณะเงียบ และซึมต่อไป
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนหุ้นที่มีประเด็นได้ ส่วนหุ้นในกลุ่มส่งออกก็เป็นโอกาสในการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว เพียงแต่ช่วงนี้ภาวะตลาดฯไม่เอื้อทำกำไรกับกลุ่มส่งออกมากนัก แต่เงินบาทแข็งค่าก็ไม่ได้เรื่องของปัจจัยพื้นฐาน เพียงแต่ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เป็นบวก และเงินเฟ้อที่ต่ำ ทำให้เงินเข้ามาพักรอการเคลื่อนย้ายออกไป อีกทั้งบ้านเราก็ถือว่า Downside ต่ำด้วย ดังนั้นการเข้ามาถือหุ้นก็ไม่ได้เสียเปรียบ และเมื่อใดที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มทำการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เม็ดเงินก็จะกลับออกไป
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยบ้านเราเวลานี้ต่างโฟกัสไปที่การทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งในสัปดาห์นี้ก็จะมี SCC, ADVANC โดยกลุ่มสื่อสารก็มีการคาดการณ์กันว่าผลประกอบการจะออกมาดี ส่วนกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ผลประกอบการก็น่าจะออกมาใช้ได้อยู่ แม้ว่าผลประกอบการของแบงก์ขนาดใหญ่จะออกมาไม่ดี แต่แบงก์ขนาดเล็กก็ออกมาดี
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway ในกรอบ 1,573-1,585 จุด พร้อมแนะนำให้เลือกลงทุนระยะยาวในหุ้นกลุ่มส่งออก อีกทั้งเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มโรงกลั่นได้ จากการคาดการณ์ว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 จะออกมาดี
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,374.72 ล้านบาท ปิดที่ 385.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,237.07 ล้านบาท ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,847.99 ล้านบาท ปิดที่ 191.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,562.33 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,449.38 ล้านบาท ปิดที่ 86.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท