โบรกฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) เชื่อผลประกอบการไตรมาส 2/60 น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง Low Season และจะค่อย ๆ เห็นการฟื้นตัวดีขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/60) จากที่ในไตรมาส 3/60 จะสินค้ารุ่นใหม่ออกมาวางตลาดเพิ่มขึ้น และการจัดงาน Big Pro Days ครั้งที่ 11 (10-16 ก.ค.60) ที่ผ่านมาก็มียอดขายเติบโตดีกว่าปีก่อน
ส่วนไตรมาส 4/60 เป็นช่วงของ High Season น่าจะผลักดันยอดขายกล้องเพิ่มสูงขึ้น และเชื่อว่างานพระราชพิธีในช่วงเดือน ต.ค.น่าจะมีผลกระทบในช่วงระยะสั้น ๆ เท่านั้น
ส่วนราคาหุ้นที่ปรับลดลงไปมากในช่วงที่ผ่านมามีสาเหตุจากการตอบรับที่เกินจริงของตลาดต่อกำไรสุทธิที่คาดว่าจะอ่อนแอในไตรมาส 2/60
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.28 น.หุ้น BIG บวก 0.53% มาอยู่ที่ 3.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 36.66 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.88 บาท และราคาขึ้นสูงสุด 3.88 บาท ส่วนราคาลงต่ำสุด 3.80 บาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ฟินันเซียไซรัส ซื้อ 5.00
กสิกรไทย ซื้อ 5.10
ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ซื้อ 6.10
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า กำไรสุทธิของ BIG ในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วงของ Low Season ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิต่ำสุดในรอบ 3 ไตรมาส
แต่เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 2/60 น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะจากการจัดงาน Big Pro Days ครั้งที่ 11 มียอดขายดีกว่าปีก่อน และคาดว่าผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปจะออกสินค้ารุ่นใหม่มาวางตลาดมากขึ้นในไตรมาส 3/60 และการรุกตลาดพิมพ์ภาพดิจิตอลที่มีอัตรากำไรสูง
ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลดลงมาที่ 888 ล้านบาท เป็นไปตามกำลังซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ส่งผลกระทบต่อตลาดกล้องอยู่ในระดับที่ทรงตัว แต่เชื่อว่าน่าจะได้รับแรงสนุบสนันจากการกระตุ้นตลาดของผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปทั้งการออกโปรโมชั่นและการเปิดตัวรุ่นใหม่ในไตรมาส 3/60 ขณะที่ยอดขายยังมีการเติบโตที่ดีจากปีก่อน ทำให้ภาพรวมกำไรในปีนี้น่าจะยังทำได้สูงกว่าปีก่อน
อนึ่ง BIG แจ้งกำไรปี 59 เท่ากับ 846.4 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.24 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีกำไร 586.2 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.17 บาท
ส่วนนายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ BIG ตั้งแต่ไตรมาส 3/60 จะฟื้นตัวดีขึ้นมาก จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/59 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวญี่ปุ่น และไม่มีกล้องถ่ายภาพรุ่นใหม่ไม่ออกมา ส่วนไตรมาส 4/60 แม้จะมีงานพระราชทานพืธีในช่วงเดือน ต.ค.แต่เชื่อว่าอาจมีผลกระทบในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่นานมากเท่าช่วงไว้อาลัยปีก่อน
ทั้งนี้ จากการสอบถามบริษัท พบว่ายอดขายในเดือน มิ.ย.60 อ่อนลงตามกำลังซื้อที่สะดุดลง แต่พอมาถึง ก.ค.60 และเป็นช่วงจัดงาน Big Pro Day (10-16 ก.ค.60) ยอดขายกลับมากระเตื้องดีขึ้นแล้ว และเมื่อมาถึงไตรมาส 4/60 ก็จะเข้าสู่ไฮซีซั่นที่เชื่อว่าจะมียอดขายที่ดี
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ได้ปรับลดประมาณการรายได้ของ BIG ปีนี้ลง 9-12% ตามแนวโน้มยอดขายกล้องมิลเลอร์เลส ที่คาดว่าจะอ่อนตัวลง หลังจากคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/60 จะลดลง 29.2% จากไตรมาสแรก และ 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการเติบโตของค่าจ้างนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวซึ่งจะกดดันการบริโภคในประเทศ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพของกล้องถ่ายรูปในสมาร์ทโฟน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับยอดขายกล้องถ่ายรูปในอนาคต
อย่างไรตาม เชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับลดลง 14.3% ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีสาเหตุจากการตอบรับที่เกินจริงของตลาดต่อกำไรสุทธิที่คาดจะอ่อนแอในไตรมาส 2/60 อีกทั้งคาดว่า PER ในปี 60 จะอยู่ที่ 15.2 เท่า และอัตราตอบแทนเงินปันผลจะอยู่ที่ 3.9% ในปี 60 อิงจากอัตราการจ่ายเงินปันผลในปี 59 ที่ 60%