นายพิชากร เหมมันต์ ทนายความของ บมจ.อินเตอร์ ฟร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานบริษัท IFEC ให้เข้ามายื่นคัดค้านการขายทอดตลาดหุ้น IFEC ที่กำหนดมีขึ้นในเช้าวันนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ก.ค.60 นายวิชัยได้ยื่นฟ้องเพิกถอนสัญญาเงินกู้เพื่อการซื้อหลักทรัพย์ และการบังคับจำนำและหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่ชอบด้วยกฎหมายละเมิดโดยคำขอให้ระงับ/ห้าม/เพิกถอนการประกาศขายทอดตลาด ซึ่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้รับฟ้องไว้แล้ว
นายพิชากร กล่าวว่า การยื่นเอกสารคัดค้านการขายทอดตลาดหุ้น IFEC เนื่องจากมองว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยปัจจุบันหุ้น IFEC ยังถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ (SP) ประกอบกับสัญญากู้เงินเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอยู่ระหว่างการฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ซึ่งยังไม่ถึงที่สิ้นสุด นอกจากนี้หลักประกันดังกล่าวยังไม่ได้มีการฟ้องร้องเพื่อบังคับจำนำ
สำหรับคดีที่ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาแล้วและนัดไต่สวนในวันที่ 31 ต.ค.60
"การขายทอดตลาดครั้งนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะเราอยู่ระหว่างฟ้องร้องกับคู่กรณีซึ่งยังไม่ถึงที่สิ้นสุด หุ้นติด SP ซึ่งก็บอกอยู่แล้วว่าไม่สามารถซื้อขายได้ ก.ล.ต. ควรเข้ามาร่วมพิจารณาด้วยเพราะเป็นการซื้อขายแบบนี้ คือ เป็นแบบ Big Lot" นายพิชากร กล่าว
ทั้งนี้ การขายทอดตลาดหุ้น IFEC ในครั้งเป็นหุ้นของนายวิชัย ที่ถืออยู่ทั้งหมด 2.8% หรือ 57,461,666 หุ้น ซึ่งหากคิดราคาหุ้นเริ่มต้นที่ 3.10 บาท จะมีมูลค่าราว 178 ล้านบาท
ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC ที่ระบุว่าเดินทางมาสังเกตุการณ์ในวันนี้ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการคัดค้านการขายทอดตลาดหุ้น IFEC เพราะมองว่าหากเกิดการขายทอดตลาดหุ้น IFEC ดำเนินการสำเร็จก็จะมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย เนื่องจากจะเป็นการชี้นำราคา
"หากได้ราคาสูงก็จะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยท้วงติงเพื่อที่จะขายหุ้นบ้าง แต่หากได้ราคาต่ำ ก็จะทำให้มูลค่าของหุ้นนั้นลดลงไปจากเดิมอีก และหากถูกปลดเครื่องหมาย SP ก็ตะทำให้มีการเทขายหุ้นออกมาอีก"ผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC กล่าว