นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดย WTI ได้ปรับตัวขึ้น 6 วันติดต่อกันจนทะลุระดับ 50 เหรียญฯ/บาร์เรลแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน และทางสหรัฐฯก็เตรียมกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา รวมถึงจะมีการหารือระหว่างกลุ่มประเทศผู่ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกโอเปก ในวันที่ 7-8 ส.ค. ส่วนเศรษฐกิจไทยก็ฟื้นตัวได้ดี ดูได้จากการส่งออก และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี
อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของดัชนียังอาจจำกัด เนื่องจากสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลียังตึงเครียดอยู่ และนักลงทุนต่างชาติได้ปรับพอร์ตเมื่อวานนี้ด้วยการขายสุทธิมากขึ้นกว่า 7 พันล้านบาทในตลาดหุ้นไทย และยังได้ทำ Short ในตลาดฟิวเจอร์สอีกด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน พร้อมให้แนวรับ 1,575-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,582 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,891.12 จุด เพิ่มขึ้น 60.81 จุด (+0.28%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,348.12 จุด ลดลง 26.55 จุด (-0.42%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,470.30 จุด ลดลง 1.80 จุด (-0.07%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 18.10 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 2.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.02 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.03 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 2.37 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ก.ค.60) 1,576.08 จุด ลดลง 4.98 จุด (-0.31%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 7,156.79 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ก.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 ก.ค.60) ปิดที่ 50.17 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ก.ค.60) ที่ 8.51 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.27/28 แนวโน้มยังแข็งค่า หลังดอลล์อ่อนจากความกังวลการเมืองในสหรัฐฯ
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณานำเงินกองทุนส่งเสริมเพื่อการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) บางส่วนตั้งกองทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพ โดยร่วมกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องการทำกิจกรรมเพื่อสังคมนำเงินมาร่วมสนับสนุนตั้งแต่กลุ่มเริ่มต้นในมหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยเศรษฐกิจไทยขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเรื่องเงินฝืด แม้ว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบมา 2 เดือนติดกัน เพราะทางเทคนิคเงินเฟ้อจะต้องติดลบติดต่อกัน 6 เดือน ถึงจะถือว่าเศรษฐกิจมีปัญหาเรื่องเงินฝืด
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือน มิ.ย. 2560 ลดลงเล็กน้อย 0.16% อยู่ที่ระดับ 111.76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 111.94 เนื่องจากกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วนลดลง 27.48% ตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งภูมิภาค ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 61.05% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 60.73%
- กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์การขยายสินเชื่ออุทกภัยภาคใต้ที่มีวงเงินเหลืออยู่ 2,000 ล้านบาท เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 1 ส.ค. 2560 เพื่อพิจารณาเห็นชอบให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่อื่นทั่วประเทศ รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ผ่อนชำระ 7 ปี
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาส 2 ปีนี้จะใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่โต 3.3% ส่วนเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะขยายตัว 3.7% และทั้งปีขยายตัวได้ 3.5%
- ธปท.เตือนเอกชนทำประกันความเสี่ยง ไม่การันตี 'บาท' แข็งค่าหลุด 33 บาท/ดอลล์ เหตุครึ่งปีหลังเงินสหรัฐมีทิศทางอ่อนลงอีก แต่มั่นใจไม่กระทบส่งออกได้ตามเป้า ขยายตัว 5%
*หุ้นเด่นวันนี้
- BEAUTY (ธนชาต) "ซื้อ" คาดการณ์กำไร 2Q60 ทำจุดสูงสุดใหม่ +57% y-y ที่ 218 ล้านบาท จากทั้งยอดขายในประเทศ และต่างประเทศ คาดกำไรทั้งปี 2560-2561 ขยายตัว 39-36%
- MAJOR (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 34 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q60 ที่ 564 ล้านบาท +173% Q-Q เพราะเป็น High Season ที่มีหนังทำเงินเข้าฉายหลายเรื่อง เช่น Fast&Furious 8 แต่เทียบ Y-Y จะลดลง 3% เพราะฐานสูง โดยได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2560-2561 ลง 6-9% ราคาหุ้นปรับตัวลงจน Upside เปิดกว้าง
- BANPU (โกลเบล็ก) Bloomberg Consensus 22.26 บาท คาดกำไร 2Q60 อยู่ที่ 2.19 พันล้านบาท +52%QoQ แม้ว่าราคาถ่านหินเฉลี่ย 2Q60 จะปรับตัว 4%QoQ สู่ระดับ 78.9 ดอลลาร์ต่อตัน แต่คาดว่าผลกระทบด้านลบจากค่าเงินบาทจะไม่มากเท่า 1Q60 โดยทั้งปี Consensus คาดกำไรราว 8.8 พันล้านบาท +429YoY ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบจากข่าวคดีความหงสาไปพอสมควรแล้ว อีกทั้งราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. กว่า 26% เป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการ เพราะบริษัทได้ทำสัญญาขายถ่านหิน 50% และอีก 50% อ้างอิงตามราคาถ่านหิน
- BEM (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 8.50 บาท กำไรไตรมาส 2 มีโอกาสออกมาดีกว่าตลาดคาด จากการขยายสัมปทานส่งผลให้ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายรฟม.เฉลี่ยต่อปีลดลง (ทางบัญชี) และในวันที่ 11 ส.ค. BEM จะเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง-น้ำเงิน ที่สถานีบางซื่อ-เตาปูน คาดจะส่งผลให้ผู้โดยสารจากสายสีม่วงเดินทางเข้าสู่สายสีน้ำเงินเพิ่มมากขึ้น โดยรฟม.คงอัตราโดยสารไว้ที่ 57 บาท/เที่ยว (จากเดิม 70 บาท/เที่ยว) พร้อมคาดกำไรปี 2560 ที่ 3,179 ล้านบาท (+21%YoY) เติบโตจากธุรกิจรถไฟฟ้า 40% และทางด่วน 11%