โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี (TKS) แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/60)จะกลับมาฟื้นตัวขึ้น จากธุรกิจหลักที่เริ่มเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวรายได้ตั้งแต่ H2/60 หลังเข้าสู่ช่วง High Season โดยมีการรับงานแสตมป์เซเว่น จาก CPALL, งานที่ลาวเลื่อนมา และรับงานจาก SYNEX ตามการเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ อีกมากในช่วงครึ่งปีหลัง และยังมีงานอื่น ๆ ที่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วย
นอกจากนี้ ให้น้ำหนักในบริษัทร่วมมากขึ้น ทั้งใน SYNEX และ TBSP ที่เติบโตดี อย่าง SYNEX คาดกำไรปี 60 โตแรง จากกระแส lnternet of Things และการก้าวขึ้นมาของ Huawei
วันนี้ราคาหุ้น TKS ปิดที่ 12.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ SET บวก 4.11 จุด (+0.26%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 17.40 เมย์แบงก์กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อ 17.00 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 14.55 เออีซี ซื้อ 12.80
นายรณกฤต สารินวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เออีซี กล่าวว่า ไตรมาส 2/60 ผลประกอบการของ TKS ยังคงชะลอตัว เนื่องจากไตรมาส 1/60 ปริมาณงานสื่อสิ่งพิมพ์ยังชะลอตัวอยู่ แต่อย่างไรก็ตามยังมีมุมมองที่ดีเนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังจะเข้าสู่ช่วง High Season ของ TKS โดยจะมีการส่งมอบแสตมป์เซเว่น ซึ่งได้รับงานจากบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL)
นอกจากนี้ ยังจะได้งานจากบมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX ที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ อีกมากในช่วงครึ่งปีหลัง และยังมีงานอื่น ๆ ที่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วย
"ช่วงครึ่งปีแรกการทำการตลาดต่าง ๆ เองก็มีการชะลอออกไป และงานที่จะมีการส่งมอบในช่วงไตรมาส 2 ก็มีการเลื่อนออกไปในไตรมาส 3 แทนทำให้ผลประกอบการไตรมาส 2 ยังไม่ดีนัก แต่อย่างไรก็ตามครึ่งปีหลังเข้าช่วงไฮซีซั่นของบริษัทฯ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็ทยอยส่งมอบแสตมป์เซเว่นแล้ว และยังจะมีงานใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่มีต่อเนื่องของ SYNEX อีก ซึ่งหากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาก็เป็นโอกาสที่จะเข้าสะสมหุ้นได้"นายรณกฤต กล่าว
ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯได้ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ทยอยซื้อ" จาก "ขาย" ปีนี้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมมีส่วนสำคัญต่อกำไรสุทธิ โดยในไตรมาส 2/60 คาดแนวโน้มธุรกิจโรงพิมพ์ยังคงอ่อนตัว y-y และ q-q ซึ่งปกติจะเป็น low season แต่จะไปดีขึ้นในครึ่งปีหลัง จากงานที่ลาวที่เลื่อนมาและงานแสตมป์ร้านสะดวกซื้อที่กลับมาใหม่ จากปีก่อนไม่ได้งาน
นอกจากนี้ บริษัทร่วม SYNEX และ TBSP ที่เติบโตดี จึงเพิ่มน้ำหนักในบริษัทร่วมมากขึ้น โดย SYNEX ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ยอดขาย Smart Phone ยังโตสูง ได้เป็นตัวแทนขายสินค้า , อุปกรณ์เสริมในสินค้า IT , Smarts Phone และสินค้าอื่น ๆ เพิ่ม และได้ตั้งบริษัทร่วมทุนในธุรกิจ Industrial Grade Product ที่จะเริ่มมีรายได้ในไตรมาส 2/60 และยังอยู่ระหว่างการเจรจา ในธุรกิจ Financial Service รวมถึงจะขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน
ด้าน บล.หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์ฯให้ 4 เหตุผลที่ต้อง "ซื้อ" หุ้น TKS 1) ธุรกิจหลักมีโอกาสสูงที่จะถูก re-rate จากความคืบหน้าของธุรกิจใหม่อย่าง System lntegrators Label และ Packaging ในช่วงครึ่งหลังปี 60 2) คาดกำไรปี 60 ของบริษัทร่วมอย่าง SYNEX โตแรง 41% YoY หนุนโดยกระแส lnternet of Things และการก้าวขึ้นมาของ Huawei 3) ราคาหุ้นปัจจุบัน มี downside จำกัด ซื้อ / ขาย ที PER17X เพียง 12 เท่า และปันผลที่สูงถึง 6% และ 4) upside จากราคาพื้นฐาน 36%
ทั้งนี้ ธุรกิจหลักจะกลับมาฉายแววอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง โดยตลอด 2 ปีของการสร้างธุรกิจใหม่จะเริ่มเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวรายได้ ได้แก่ งานวางระบบในลาวที่เลื่อนการรับรู้มาจากครึ่งปีแรกมาช่วงครึ่งปีหลัง, งาน Packaging เริ่มทยอยรับรู้งาน จากลูกค้าใหม่ 3 ราย และงาน Label ผ่านช่วงติดตั้งเครื่องจักรและเริ่มทยอยผลิตสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวคาดทำให้รายได้ TKS เติบโต 7% ในปี 60 และ 8% ในปี 61 พร้อมคาดกำไรปกติในปี 60-61 จะเติบโต 27% YoY และ 15% YoY ตามลำดับ