ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,582.38 จุด เพิ่มขึ้น 1.84 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 17,695.57 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,583.70 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,579.83 จุด
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ดัชนีฯปรับตัวขึ้นไปได้ยากหลังจากที่เข้าใกล้เป้าหมายของเราที่ 1,587 จุด ทั้งที่ตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยอะไรมากดดัน แต่กลุ่มพลังงานมีการชะลออยู่ อย่างไรก็ตามภาพตลาดฯจะเห็นได้ว่ายังมีแรงซื้อในหุ้นที่ถูกกดดันมาตั้งแต่ต้นปี อย่างกลุ่มโรงพยาบาล ที่คาดหวังในผลประกอบการจะฟื้นตัว และกลุ่มโรงแรม ที่ปรับตัวขึ้นไปแล้วหลังจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้หุ้นขนาดกลาง-เล็กช่วยประคองตลาดฯ แต่มองว่าเป็นแค่การเข้ามาเล่นเก็งกำไร เนื่องจากตลาดฯยังไม่มีปัจจัยบวก-ลบที่จะมาเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) ซึ่งเงินดอลลาร์ศหรัฐฯยังคงอ่อนค่าอยู่ แต่ตลาดฯได้ให้น้ำหนักไปที่สถานภาพทางการเมืองของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มากกว่า นอกจากนี้สัปดาห์หน้าบ้านเราหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะทยอยประกาศงบการเงินในไตรมาส 2/60 ออกมา ซึ่งก็คาดว่างบฯจะออกมาไม่ค่อยดีมากนัก ก็อาจจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดฯได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายประกิต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,578-1,587 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 965.52 ล้านบาท ปิดที่ 383.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 804.50 ล้านบาท ปิดที่ 187.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 706.77 ล้านบาท ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 688.53 ล้านบาท ปิดที่ 189.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 640.89 ล้านบาท ปิดที่ 19.50 บาท ลดลง 0.10 บาท