นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายยอดขายจากการดำเนินงานในปี 60 เพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท หลังมียอดขายในรอบ 7 เดือน สูงถึง 17,300 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 20% และเติบโตถึงเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวที่อยู่อาศัยที่จะรองรับเป้าหมายยอดขายใหม่ดังกล่าว จำนวน 16 โครงการ มูลค่ารวม 39,260 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 22,350 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 16,150 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ มูลค่า 760 ล้านบาท รวมถึงโปรเจ็กต์ไฮไลท์ที่มีมูลค่าโครงการสูงที่เตรียมเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ด้วย
"ในช่วง 5 เดือนหลังของปี 60 นี้ บริษัทมองว่าภาคการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งการผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดเป็นรูปธรรมจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา"นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า ความสำเร็จจากการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจน จากที่อยู่อาศัยโครงการต่าง ๆ ของบริษัทที่ได้รับความสนใจและตอบรับจากลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติเป็นอย่างดี แม้จะมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าไปเพียง 3 โครงการในช่วงที่ผ่านมา นับว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
ในตลาดต่างชาติซึ่งเป็นตลาดสำคัญ บริษัทสามารถสร้างยอดขายไปถึง 4,200 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 50 % ของเป้าหมายยอดขายตลาดต่างชาติที่วางไว้ 8,000 ล้านบาท โครงการที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมากที่สุด ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและบีทีเอส “แบรนด์ เดอะ ไลน์" ได้แก่ โครงการเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 โครงการ และเดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ ขณะที่คอนโดมิเนียมในตลาดต่างจังหวัดของแสนสิริ คือ โครงการเดอะ เบส เซ็นทรัลพัทยา ก็สามารถปิดขาย โครงการ โดยยอดขายหลักมาจากลูกค้าชาวฮ่องกงและจีน, ลูกค้าชาวสิงคโปร์และลูกค้าชาวไต้หวัน
นอกจากนี้อีกปัจจัยที่สำคัญคือ ยอดขายจากโครงการ 98 WIRELESS ซึ่งนับเป็นแฟล็กชิพคอนโดมิเนียม ของแสนสิริมูลค่าโครงการรวม 8,700 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายไปถึง 60% รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมใน Affordable Segment ที่มียอดขายเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน โดยสามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียม “ดีคอนโด" ได้ทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่ ดีคอนโด นิม เชียงใหม่, ดีคอนโด กาญ จนวณิช, ดีคอนโด อ่อนนุช-พระราม 9, และ ดีคอนโด กะทู้-ป่าตอง นอกจากนี้ยังสามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมบ้านเคียงฟ้า หัวหิน ในตลาดต่างจังหวัดอีกด้วย