ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,576.18 จุด ลดลง 2.08 จุด (-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 16,650.39 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,580.47 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,573.93 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงเล็กน้อยไม่ได้มีทิศทางที่ชัดเจน สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ภายหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ทำให้เงินบาทและสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าลง และทำให้ตลาดหุ้นไทยมี Upside จำกัดด้วยจากที่เงินบาทอ่อนค่า
นอกจากนี้ ล่าสุดยังมีการปรับลดประมาณการ EPS ของบริษัทจดทะเบียนลงเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัว ส่งผลให้ในแง่ Valuation ตลาดฯไม่น่าสนใจมากนัก
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่ยังสามารถยืนอยู่ได้ในระดับสูงยังช่วยประคองตลาด และในวันที่ 7-8 ส.ค.นี้ก็จะมีการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออก (โอเปก) และนอกโอเปก เกี่ยวกับการเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติตามข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ก็จะเป็นทิศทางบวกต่อราคาน้ำมัน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด อิงลบเล็กน้อย จากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ทำให้เป็นลบต่อหุ้น พร้อมให้แนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 957.43 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 837.75 ล้านบาท ปิดที่ 17.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 600.83 ล้านบาท ปิดที่ 188.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 585.65 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 558.58 ล้านบาท ปิดที่ 183.00 บาท ลดลง 5.00 บาท