โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT) เนื่องจากคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/60 เติบโต 19-33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีโอกาสทำกำไรสูงสุด แม้จะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น แต่ธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศที่ดีตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และโรงแรมในต่างประเทศที่ฟื้นขึ้นมาหลังจากปิดปรับปรุงและเปิดใหม่ปีนี้ แต่หากเทียบกับไตรมาส 1/60 (QoQ) ยังลดลง ขณะที่ธุรกิจอาหารเติบโตตามสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้น แม้ยอดขายในสาขาเดิมยังชะลอตัว
แนวโน้มครึ่งหลังปี 60 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจโรงแรมและอาหาร เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และคาดรับประโยชน์จากการขายอสังหาริมทรัพย์ คือ อนันตรา ลายัน ภูเก็ต
ราคาหุ้นปิดวันนี้ที่ 41.00 บาท บวก 0.25 บาท (+0.61%) ขณะที่ SET ลดลง 4.59 จุด (-0.29%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ธนชาต ซื้อ 48.00 บัวหลวง ซื้อ 46.00 ซีไอเอ็มบี ซื้อ 45.00 ฟินันเซียไซรัส ซื้อ 43.00 หยวนต้า เทรดดิ้ง 42.50
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต คาดว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 ของ MINT เติยโต 20-22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวขึ้นทั้งโรงแรมในไทย และโรงแรม Tivli ในบราซิลที่เพิ่งปรับปรุงแล้วเสร็จ ขณะที่ธุรกิจอาหารยังเติบโตได้ตามการขยายสาขาใหม่แม้ว่ายอดขายสาขาเดิมจะลดลง
ทั้งปี 60 คาดว่า กำไรสุทธิเติบโต 26% มาที่ 5,770 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 ปีนี้โรงแรมที่ปรับปรุงใหม่ในโปรตุเกส จะแล้วเสร็จจะช่วยผลประกอบการในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จึงแนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 48 บาท ในปี 60-61 จากเดิมราคาเป้าหมายที่ 45 บาท
"ปีที่แล้วราคาหุ้นไม่ค่อยดี แต่ปีนี้จะกลับมา Turnaround กำไรเติบโตเห็นได้ชัด"นายอดิศักดื์ กล่าว
ปัจจัยหลักที่หนุนกำไรของบริษัทฯในช่วงปี 60-61 ได้แก่ รายได้ของธุรกิจโรงแรม ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเติบโตที่ 12-13% โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของอัตราการเข้าพักและอัตราค่าห้องพัก รวมทั้งการลงทุนในโรงแรมใหม่, MINT มีแผนจะเปิด 3 โครงการอสังหาริมทรัพย์ในปี 62 (ยังไม่รวมในประมาณการ) โดยโครงการอสังหาฯ นี้ให้อัตรากำไรที่สูงขึ้นจึงช่วยให้อัตราผลตอบแทนของโครงการสูงขึ้น
และรายได้จากธุรกิจอาหาร ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเติบโตที่ 12% ได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างสรรค์ แบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการขยายสาขา แผนธุรกิจ 5 ปีของ MINT คือ การมุ่งเน้นการเพิ่มผลกำไรด้วยการตั้งเป้าการเติบโตของกำไรที่ 15-20% ต่อปีในปี 60-64
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ยังแนะนำ"ซื้อ" หุ้น MINT ราคาเป้าหมาย 43 บาท เพราะคาดว่า งบการเงินในไตรมาส 2/60 เติบโตแข็งแกร่ง จากการท่องเที่ยวในไทยยังเติบโต และโรงแรมในต่างประเทศเริ่มมีผลงานดีขึ้น โดยคาดในไตรมาส 2/60 มีกำไรสุทธิ 711 ล้านบาท เติบโต 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ธุรกิจอาหารยังเติบโตราว 10% ตามจำนวนสาขาใหม่เพิ่มขึ้นซึ่งตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ปีละ 10% แม้ว่ายอดขายสาขาเดิมปรับตัวลดลงบ้าง
แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3/60 เป็นโลว์ซีซั่น แต่ดีกว่าไตรมาส 2 ทั้งนี้คาดว่าทั้งปี 60 คาดกำไรสุทธิ 5.6 พันล้านบาท เติบโต 23% จากปีก่อน
"ปีนี้เป็นปีที่ดีของ MINT ปีที่แล้วกำไรไม่โตทั้งในประเทศ และในต่างประเทศอยู่ในช่วง Renovate ปีนี้สถานการณ์ดีขึ้นเห็นการฟื้นตัว"นักวิเคราะห์กล่าว
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) คาดการณ์กำไรหลักในไตรมาส 2/60 ที่ใกล้ประกาศออกมาเติบโตก้าวกระโดด 26% yoy เป็น 753 ล้านบาท ผลพวงจากธุรกิจโรงแรมสดใสในแทบทุกภูมิภาคที่ไปลงทุน จึงให้รายได้เข้ามาที่มาก อีกทั้งอัตรากำไรทำได้สูงขึ้น แม้ว่าส่วนธุรกิจอาหารมีอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (SSSG) ที่ชะลอลงก็ตาม โดยรวมคาดว่าจะติดลบ แต่เทียบกับ yoy และ qoq ที่ +2.3% และ +1.3% ตามลำดับ แต่การขยายสาขาเพิ่ม ก็ทำให้ยอดขายรวมยังเติบโตได้ แต่เป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับกลาง อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรหลักในไตรมาส 2/60 ลดลงถึง 61% qoq แต่ไม่น่ากังวล เพราะเป็นเรื่องปัจจัยตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นทุกๆปี
อีกทั้งคาดว่ากำไรในช่วงครึ่งหลังปีนี้ (H2/60) จะยิ่งสดใส คือ มีการเติบโตดีเทียบกับทั้ง yoy และ qoq ทั้งงวด ไตรมาส 3/60 และ ไตรมาส 4/60 อันเป็นผลพวงจากธุรกิจโรงแรมไปได้ดีในทุกภูมิภาคที่เปิดให้บริการอยู่ คือ ไทย ออสเตรเลีย (OAKS) โปรตุเกส บราซิล และอาฟริกา ส่วนมัลดีฟส์กำลังทยอยฟื้นตัว มีการจับตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง ดังนั้น MINT จึงมีอัตราการเข้าพัก (OR) และอัตราค่าห้องพักที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ในช่วง H2/60 จะมีการขายอสังหาฯ คือ อนันตรา ลายัน ภูเก็ต หนึ่งหรือสองหน่วย ขณะที่ H1/60 ไม่มีการขายอสังหาฯ แต่อย่างใด
บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ค่อนข้างมั่นใจในการเติบโตของกำไรหลักของ MINT ในไตรมาส 2/60 และต่อเนื่องยังครึ่งหลังของปีนี้ หนุนด้วยทั้งรายได้เติบโตดี และยิ่งไปกว่านั้น ได้แก่ อัตรากำไรหลักที่ขยายตัว โดยคาดกำไรหลักไตรมาส 2/60 ที่ 794 ล้านบาท เติบโตถึง 33% YoY แต่ลดลง 59% QoQ จากฐานสูงในไตรมาส 1/60 ที่กำไรหลักทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ 1.9 พันล้านบาท
และกำไรหลักในครึ่งแรกปี 60 จะเติบโต 21% YoY ซึ่งกำไรหลักครึ่งแรกของปี 60 นั้นน่าจะคิดเป็น 49% ของประมาณการกำไรหลักทั้งปีของเรา และคิดเป็น 47% ของที่ตลาดประเมิน ทำให้เรามองว่ามีความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรทั้งจากเราและตลาดน้อยมากสำหรับ MINT