นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 5,459 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาส 1/60 แต่ด้วยการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และลูกค้าของโรงไฟฟ้าได้กลับมาดำเนินการตามปกติ หลังจากที่มีการหยุดซ่อมบำรุงในไตรมาสก่อน ทำให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% หรือ 65 ล้านบาทจากไตรมาส 1/60
ในขณะที่ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้ลดลง 94 ล้านบาท คิดเป็น 2% เนื่องจากความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมมีปริมาณลดลงเล็กน้อย ตามปริมาณการใช้ของภาคอุตสาหกรรม แต่บริษัทฯ ยังคงมีกำไรเพิ่มขึ้น 19% หรือเพิ่มขึ้น 129 ล้านบาท จากไตรมาส 2/59 ด้วยปัจจัยทางด้านราคาขายที่ปรับตัวดีขึ้นจากส่วนของอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) เป็นต้น
“ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ ยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ในปีนี้ บริษัทฯ เจออุปสรรคมากมาย ทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือ BOI ที่เริ่มหมดอายุ อีกทั้งบริษัทในกลุ่มมีลูกค้าหยุดซ่อมบำรุง บริษัทฯ ก็ยังสามารถทำกำไรไม่น้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการที่ดีขึ้นของทรัพย์สินเดิม"นายเติมชัย กล่าว
และครึ่งปีหลังบริษัทจะมีโครงการโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจน 2 หรือ BIC 2 ที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเมื่อเดือน มิ.ย. ทำให้ในครึ่งปีหลังสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มที่ รวมถึงโครงการที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/60 อีก 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าไออาร์พีซีคลีน พาวเวอร์ ระยะที่ 2 และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์อิจิโนเซกิโซล่าร์ เพาเวอร์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ในปี 60 นี้ บริษัทจะมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 150 เมกะวัตต์ตามแผน