ANAN โชว์ผลงาน Q2/60 รายได้-กำไรโตพุ่ง 30% หลังยอดขายทะลุเป้าไปกว่า 50%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 8, 2017 12:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/60 มีกำไรเพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนมาเป็น 279 ล้านบาท และมีรายได้ 3,752 ล้านบาท เติบโต 30% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ในปี 60 เป็นช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวผลตอบแทน (Harvest Period) นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้านการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 5 โครงการ ในงาน Ananda Urban Pulse มียอดขายสูงกว่าเป้าที่วางไว้ ทำให้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 2/60 กำหนดโอนภายในช่วง 4 ปีข้างหน้ากว่า 49,700 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นสถิติอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน

ในไตรมาส 2/60 บริษัทเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ติดรถไฟฟ้า 5 ทำเล และโครงการแนบราบใหม่ 1 ทำเล ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 22,800 ล้านบาท ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมมูลค่ารวมกว่า 21,900 ล้านบาท ได้แก่ ไอดีโอ คิว วิคตอรี่ ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มูลค่าโครงการกว่า 3,200 ล้านบาท โครงการแอชตัน อโศก-พระราม 9 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 9 มูลค่าโครงการกว่า 6,400 ล้านบาท

โครงการไอดีโอ สุขุมวิท 36 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทองหล่อ มูลค่าโครงการกว่า 4,300 ล้านบาท โครงการไอดีโอ พระราม 9 ตัดใหม่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรามคำแหง 12 มูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท โครงการเอลลิโอ เดล เนสท์ มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท และโครงการยูนิโอ ทาวน์ ลำลูกกา คลอง 4 มูลค่าโครงการกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบแบรนด์ใหม่ อยู่ใกล้สถานีคลอง 4

นายชานนท์ กล่าวว่า ยอดขายจากโครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้าไตรมาส 2 นี้ สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 11,051 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 7,352 ล้านบาท ถึง 50% โดยยอดขายที่แข็งแกร่งส่วนหนึ่งมาจากความต้องการซื้อจากลูกค้าที่ดีกว่าคาด และจากการเลื่อนเปิดโครงการใหม่มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาทเร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปี

ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรก บริษัทสร้างยอดขายได้ 50% ของเป้ายอดขายทั้งปี และมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 8 โครงการ โดยผลจากความสำเร็จดังกล่าวมาจากตัวโครงการอยู่ในทำเลติดรถไฟฟ้า สะดวกสบายในการอยู่อาศัย มีการนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในโครงการ และราคาที่เหมาะสมสามารถจับต้องได้อย่างแท้จริง

บริษัทมีอัตราการขายสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วง 2 สัปดาห์แรกตั้งแต่การเปิดขายโครงการใหม่จนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2 โดยสามารถปิดการขาย 100% สำหรับโครงการไอดีโอ คิว วิคตอรี่ ซึ่งมีลูกค้ามากกว่า 4,000 ราย ที่มีความต้องการซื้อโครงการดังกล่าวที่ทั้งโครงการมีเพียง 348 ยูนิต นอกจากนี้โครงการแอชตัน อโศก-พระราม 9 มีอัตราการขายกว่า 74% โครงการไอดีโอ พระราม 9 ตัดใหม่ มีอัตราการขาย 54% โครงการไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 มีอัตราการขาย 45% ของยูนิตที่เปิดขายในช่วงเปิดโครงการใหม่ โดยปกติบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายอัตราการขายในช่วง 3 เดือนแรกที่ระดับ 40% ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แสดงให้เห็นว่าความต้องการที่พักอาศัยในทุกระดับราคาทุกประเภทยังคงมีอยู่มาก โดยเฉพาะโครงการที่คุ้มค่า คุณภาพดี ทำเลใกล้รถไฟฟ้า

ไตรมาส 2/60 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 2,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 69% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ยังมีรายได้อื่นกว่า 1,090 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากโครงการร่วมทุน ทำให้บริษัท สร้างรายได้รวมจำนวน 3,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และ 62% จากไตรมาสก่อน พร้อมทั้งมีกำไรสุทธิ 279 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ยังสร้างอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7% เพิ่มขึ้นจาก 6% ในไตรมาสก่อน

ไตรมาสนี้บริษัทสร้างรายได้ และผลกำไรที่แข็งแกร่ง ซึ่งอยู่ในช่วงที่เรียกว่า "ระยะเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวผลตอบแทน" เห็นได้จากยอดโอนที่เติบโตขึ้นสามเท่าตัว ระหว่างปี 58 จนถึง 61 รวมการเติบโต 58% จากปี 59 สำหรับการโอนในปี 60 อยู่ที่ 25,047 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่จะโอนในปี 60 มูลค่ากว่า 16,300 ล้านบาท คิดเป็น 81% ของเป้ายอดโอนในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งรวมส่วนแบ่งยอดโอนของ ANAN และ มิตซุย ฟูโดซัง มาจากคอนโดมิเนียม 10 โครงการที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนในปี 60 โดยเปรียบเทียบกับคอนโดมิเนียมใหม่ 5 โครงการที่แล้วเสร็จในปี 59

บริษัทยังคงรักษาวินัยทางการเงิน และประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจให้เติบโต พร้อมยังคงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิซึ่งหักด้วยเงินสดต่อส่วนทุนอยู่ที่ 0.77 :1 เท่านั้น นอกจากนี้กระแสเงินสดยังคงมีความแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นสุดไตรมาสยังคงรักษาเงินสดขนาดใหญ่ที่มีมากกว่า 1,800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทยังคงได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการเงินสดของบริษัทตลอดทั้งปี สามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์

ทั้งนี้ ในเดือน เม.ย.60 บริษัทได้ออกหุ้นกู้มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี ด้วยต้นทุนหุ้นกู้ เพียง 3.95% ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 5.40% ที่ออกหุ้นกู้เมื่อ 3 ปีก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ