โบรกฯเชียร์"ซื้อ"CHG คาดกำไร Q2/60 โตกว่า 30% รับผลบวกยอดผู้ป่วยเพิ่ม,แนวโน้มสดใสต่อเนื่องทั้งปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 8, 2017 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) หลังคาดการณ์กำไรไตรมาส 2/60 เติบโตมากกว่า 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติหนุนยอดผู้ป่วยเพิ่ม รวมถึงมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่-ไข้เลือดออกช่วยหนุนรายได้ในส่วนของผู้ป่วยใน (IPD) และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ให้เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่มีต้นทุนคงที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงหลังเลื่อนเปิดให้บริการพื้นที่ใหม่ของโรงพยาบาลชลเวช เป็นกลางเดือน มิ.ย.60 จากเดิมจะเปิดต้นไตรมาส 2/60

สำหรับภาพรวมทั้งปีนี้ยังมีทิศทางสดใส จากจำนวนลูกค้าประกันสังคมจะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ทำให้ได้รับประโยชน์จากการปรับเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยประกันสังคมที่มีผลตั้งแต่เดือน ก.ค.60 รวมถึงการเปิดใช้อาคารใหม่ในโรงพยาบาล 3 แห่งตั้งแต่ปี 59 และการเปิดใช้อาคารใหม่ของโรงพยาบาลชลเวชในเดือน มิ.ย.จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ระยะยาว CHG จะได้รับประโยชน์สูงสุดจาก EEC เนื่องจากมีเครือข่ายโรงพยาบาลในภาคตะวันออก

ราคาหุ้น CHG พักเที่ยงอยู่ที่ 2.58 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.32%

          โบรกเกอร์                  คำแนะนำ               ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ไอร่า                        ซื้อ                       3.16
          ธนชาต                       ซื้อ                       3.00
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)            ซื้อ                       3.10
          เอเชีย เวลท์                  ซื้อ                       3.40
          เคจีไอ (ประเทศไทย)         Neutral                    2.84

นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ CHG ในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะอยู่ที่ 159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาสก่อน เป็นผลจากรายได้กิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ ประกอบกับ มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก เป็นผลให้มีจำนวนผู้เข้าใช้บริการสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนการให้บริการน่าจะถูกกดดันน้อยกว่าที่เคยคาดไว้ก่อนหน้า หลังได้เลื่อนเปิดจำนวนเตียงให้บริการของอาคารใหม่ของโรงพยาบาลชลเวช จ.ชลบุรี เป็นกลางเดือน มิ.ย.60 จากเดิมจะเปิดต้นไตรมาส 2/60

"เรายังชอบ CHG ในแง่ของผลประกอบการไตรมาส 2 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติ คนป่วยเยอะขึ้น รายได้ก็เพิ่มขึ้น แต่ต้นทุน fix cost เพิ่มขึ้นในอัตราน้อยลง เพราะไม่มีการเปิดของโรงพยาบาลใหม่ ๆ เพิ่ม"นักวิเคราะห์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มภาพรวมทั้งปีนี้ คาดว่าจะมีกำไรเติบโตราว 17% มาที่ระดับ 664 ล้านบาท จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นเปลี่ยนฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้มีโอกาสเกิดโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้น โดยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยหนุนให้รายได้ของกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้แล้ว CHG ยังได้รับประโยชน์จากการที่มีลูกค้าประกันสังคมเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายปีนี้จะมีผู้ป่วยประกันสังคมราว 4.2 แสนราย จากระดับ 3.9 แสนรายในปีที่แล้ว รวมถึงยังจะได้รับประโยชน์จากการปรับเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยประกันสังคมที่มีผลตั้งแต่เดือน ก.ค.60 ขณะเดียวกันในปีนี้จะได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเปิดให้บริการอาคารใหม่ของโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ได้เปิดให้บริการตั้งแต่ปีที่แล้วด้วย ส่วนระยะยาวยังได้รับผลบวกจากการที่เป็นโรงพยาบาลอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วย

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ไอร่า ระบุว่าผลการดำเนินงานของ CHG ในไตรมาส 2/60 นับว่าโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าค่ารักษาพยาบาลจะอยู่ที่ 955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 9.1% จากงวดปีก่อน แม้ปกติจะเป็นโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล แต่ปีนี้ได้รับปัจจัยบวกจากสภาพอากาศแปรปรวนทำให้มีฝนตกมากกว่าปกติ เมื่อสังเกตกลุ่มโรคที่มากับกับฝนจะพบว่ามีการระบาดของโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จึงน่าจะช่วยหนุนรายได้ IPD ได้ และคาดว่าการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย IPD จะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเล็กน้อยจากงวดไตรมาส 1/60 มาอยู่ที่ 33.6%

ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดว่าจะสูงขึ้นเล็กน้อยจากงวดไตรมาส 1/60 เนื่องจากมีการเปิดใช้ส่วนขยายโรงพยาบาลชลเวชในช่วงปลายไตรมาส 2 แต่สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A to sales) ยังคงใกล้เคียงเดิม ทำให้คาดการณ์กำไรสุทธิที่ 157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 35.3% จากงวดปีก่อน

สำหรับในอนาคตยังมีปัจจัยหนุนต่อ CHG จาก Utilization Rate ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับในช่วงที่เหลือของปี จากการใช้งานอาคารใหม่ในโรงพยาบาล 3 แห่งที่เปิดใช้ตั้งแต่ปี 59 และการเปิดใช้อาคารใหม่ของโรงพยาบาลชลเวชในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยเงินสด ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นด้วย ขณะที่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจะมีการเปิดใช้โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 ,โรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา และปรับปรุงโรงพยาบาลรวมแพทย์ระยองด้วย

นอกจากนี้ การที่สำนักงานประกันสังคมได้พิจารณาปรับขึ้นค่าบริการทางการแพทย์ที่สำคัญ 3 รายการ เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5.5% นั้น ก็จะเป็นผลดีต่อ CHG ที่มีสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยประกันสังคม 41% ของรายได้ค่ารักษาพยาบาลในงวดไตรมาส 1/60 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 36% ในปี 59 ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา และน่าจะทำให้รายได้จากประกันสังคมในปี 60 เติบโตมากกว่า 10%

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CHG มีการเติบโตที่ชัดเจนในระยะยาวจากการขยายธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ได้ประโยชน์จากโครงการ EEC ของรัฐบาลมากที่สุด โดยยังคงประเมินว่ากำไรสุทธิ/หุ้น (EPS) จะเติบโตเฉลี่ย 5 ปี (ปี 60-64) ที่ 16% ทั้งที่อยู่ในช่วงลงทุนขยายธุรกิจก็ตาม ผู้ป่วยเงินสดที่เติบโตและรายได้จากผู้ป่วยโครงการประกันสังคมนั้นเพียงพอที่จะชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขยายธุรกิจ

บทวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า กำไรของ CHG จะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หนุนโดยช่วงไฮซีซั่น อีกทั้งการปรับขึ้นของค่าเหมาจ่ายโดยสำนักงานประกันสังคม ซึ่งมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.60 จะเป็นอีกปัจจัยบวกเช่นกัน ณ สิ้นไตรมาส 1/60 CHG มีจำนวนผู้ประกันตนอยู่ที่ 4.02 แสนราย และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 4.5 แสนรายในสิ้นปีนี้ ทำให้คาดการณ์กำไรจะเติบโต 19.5% ในปี 60 และ 18.9% ในปี 61


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ