นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริบัทได้ร่วมมือกับบริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ในทำเลเอกมัย 12 นำร่องเปิดตัวโครงการแรกเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ชื่อ "taka Haus" (ทากะ เฮาส์) มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 6 ก.ย.นี้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนธ.ค. และแล้วเสร็จในปี 62
"การร่วมมือกับโตคิวฯในครั้งนี้จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ซึ่งจะพลิกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล และยกระดับการอยู่อาศัย โดย SIRI จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่ครบวงจร และก้าวเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกในระยะกลาง"นายอุทัย กล่าว
ทั้งนี้ SIRI , บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด จะร่วมกันจัดตั้งบริษัท สิริ ทีเค วัน จำกัด โดย SIRI ถือหุ้นในสัดส่วน 70% กลุ่มโตคิวฯ ถือหุ้น 29% และสหโตคิวฯ ถือหุ้น 1% ทั้งนี้ โตคิว คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและบริการระบบรถไฟในเขตชานเมืองโตเกียว การพัฒนาเมืองและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกิจการโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจอื่น ๆ
SIRI ระบุว่าการร่วมกับโตคิวฯ ยังได้มองไปถึงการสร้างเมืองแห่งใหม่อีกหนึ่งแห่งในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างการมองหาทำเล โดยมีความเป็นไปได้ทั้งที่ดินที่ผู้ซื้อสามารถถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ (Free Hold) และที่ดินที่ผู้ซื้อสามารถไม่สามารถถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ (Lease Hold) ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการพัฒนาโครงการในแต่ละทำเล
นายอุทัย กล่าวว่า การร่วมมือกับพันธมิตรญี่ปุ่นในครั้งนี้จะช่วยผลักดันยอดขายของลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่ซื้อโครงการของ SIRI ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 15% ในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 5% โดยโตคิวฯ มีฐานลูกค้าที่จะแนะนำเข้ามาให้รู้จักกับโครงการของ SIRI มากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายจากลูกค้าต่างชาติในปีนี้ที่ระดับ 8,000 ล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นลูกค้าญี่ปุ่น 500-1,000 ล้านบาท โดย 7 เดือนแรกปีนี้ มียอดขายจากลูกค้าต่างชาติแล้วราว 4,000 ล้านบาท
ส่วนการเปิดโครงการใหม่ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังนั้น บริษัทวางแผนเปิด 16 โครงการใหม่ มูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 22,300 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 16,100 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ มูลค่า 760 ล้านบาท โดยโครงการ taka Haus ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นได้รวมไปในโครงการที่จะเปิดแล้ว และบริษัทยังมั่นใจยอดขายในปี 60 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 40,000 ล้านบาท หลังยอดขาย 7 เดือนแรกทำได้แล้วกว่า 17,000 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเห็นการเติบโตขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจไทย จากการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐที่จะทยอยออกมา และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและประชาชน ขณะที่แนวโน้มอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทในปัจจุบันถือว่าได้ปรับลดลงมาค่อนข้างมาก แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับตัวเลขสองหลัก แต่การร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ที่เป็นพันธมิตร 4-5 ธนาคาร และการที่บริษัทมีกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ค่อนข้างมาก ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทมีแนวโน้มที่ลดลง
ด้านนายโทชิยูคิ โฮชิโนะ กรรมการ และเจ้าหน้าที่ผู้จัดการบริหารอาวุโส/ผู้จัดการบริหารทั่วไป สำนักงานใหญ่ธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือกับ SIRI มาจากความสอดคล้องของค่านิยมและวิสัยทัศน์ที่คล้ายคลึงกัน อีกทั้งบริษัทยังมีความสนใจที่จะเข้ามาร่วมยกระดับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล โดยบริษัทจะใช้พลังทางด้านธุรกิจที่มีอยู่สนับสนุนโครงการที่พัฒนาร่วมกับ SIRI และทำให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นโดยผ่านทาง Tokyu Livable ความเชี่ยวชาญในการขาย ให้เช่า และการให้คำปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยขยายศักยภาพทางธุรกิจในกลุ่มชาวญี่ปุ่น เพื่อผลประโยชน์สูงสุดร่วมกัน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืนในระยะยาวที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับทำสององค์กรที่ยั่งยืน