นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจอาหารแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) กล่าวว่า บริษัทแตกไลน์สินค้ากลุ่ม Sea Snack ภายใต้ MONORI แก้มกุ้ง โดยตั้งเป้าหมายยอดขายภายในประเทศปีนี้ไว้ที่ 40-50 ล้านบาท และภายใน 3 ปี หรือปี 62 น่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายแล้วที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือโมเดิร์นเทรด และยังมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังร้านสะดวกซื้ออีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทยังมองการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ โดยคาดว่าปีหน้าจะเห็นการส่งออก MONORI แก้มกุ้ง ออกไป ซึ่งมองไปยังประเทศในแถบเอเชียก่อน และหลังจากนั้นจึงจะขยายไปสู่ตลาดในอเมริกา และยุโรปต่อไป คาดจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศราว 50% ขณะเดียวกันบริษัทก็อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ประเภท Sea Snack ภายใต้แบรนด์ MONORI คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 3 เดือนจากนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทมีเป้าหมายที่จะออกสินค้าใหม่ปีละ 2 ผลิตภัณฑ์ โดยคาดว่าภายใน 5 ปี หรือปี 64 จะมียอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมกันเติบโตแตะ 500 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทได้วางงบการตลาดในช่วงที่เหลือของปีไว้ที่ 30 ล้านบาท โดยจะทำการตลาดเชิงรุกในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ ทั้งการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หรือประชาสัมพันธ์ทางเฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม ตลอดจนการจัดกิจกรรมทางการตลาดอื่น ๆ อีกทั้งมองตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 39,587 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาด Sea Snack อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี หรือปีละ 10% เนื่องจากยังมีความต้องการบริโภคอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์ประเภท Sea Snack ในตลาดขนมขบเคี้ยวแม้มีจำนวนมาก แต่สินค้าที่ทำมาจากกุ้ง หรือในรูปแบบ MONORI แก้มกุ้ง ยังมีไม่มากนัก จึงเชื่อว่าจะได้ความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
สำหรับ MONORI แก้มกุ้ง ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 20,000 ซองต่อวัน โดยบริษัทได้มีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตที่ จ.สมุทรปราการ ใช้งบลงทุนราว 50 ล้านบาท
"เป็นโอกาสที่ดีที่เรามีสินค้าใหม่ ๆ หลังจากที่มี Fisho ที่เราก็ไม่ได้ออกสินค้ามากนานกว่า 20 ปี ซึ่งแบรนด์ MONORI แก้มกุ้ง ถือว่าเป็นแบรนด์แรกของผลิตภัณฑ์กุ้ง เราต้องการสร้างแบรนด์นี้ให้ติดตลาดในประเทศก่อน โดยวางเป้าหมายจะออกผลิตภัณฑ์ราว 2 products ต่อปี เพื่อเป็นการนำสินค้าในกลุ่มมาสร้างมูลค่าเพิ่ม"นายฤทธิรงค์ กล่าว