(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามโมเมนตัม ตปท.เป็นลบหลังสหรัฐฯขู่ตอบโต้เกาหลีเหนือเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 9, 2017 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวลงก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้นไป เนื่องจากโมเมนตัมตลาดต่างประเทศเป็นลบ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้า เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลง หลังจากที่สหรัฐฯออกมาตอบโต้ขู่เกาหลีเหนือมากขึ้น ทำให้คนเห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯก็ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วด้วยทำให้ตลาดฯหุ้นทั่วโลกต่างปรับตัวลง

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าขึ้นหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี อย่างไรก็ดี บ้านเราให้ติดตามทิศทาง Fund Flow เพราะนักลงทุนต่างชาติขายมากในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งตลาดฯยังไม่มีประเด็นบวกเข้ามาด้วย มีเพียงข่าวว่าจะมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวรอบใหม่ ซึ่งครั้งนี้เห็นว่าจะรวมสายการบินด้วย

ทั้งนี้ แนะเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวไปก่อน พร้อมให้แนวรับ 1,570-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,590 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,085.34 จุด ลดลง 33.08 จุด (-0.15%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,370.46 จุด ลดลง 13.31 จุด (-0.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,474.92 จุด ลดลง 5.99 จุด (-0.24%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 67.05 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 94.83 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 45.46 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 15.03 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.35 จุด

ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ส.ค.60) 1,577.44 จุด เพิ่มขึ้น 3.77 จุด (+0.24%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 877.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ส.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ส.ค.60) ปิดที่ 49.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ส.ค.60) ที่ 7.70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.28/30 ทิศทางอ่อนค่าหลังตัวเลขข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ หนุนดอลล์แข็ง
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยหลังการประชุมแนวทางการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศว่า ททท. เตรียมหารือกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอที่ประชุม ครม. ใช้มาตรการภาษี นำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวเช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าซื้อของที่ระลึกร้านค้าชุมชน ค่าบริการบริษัทนำเที่ยว นำมาลดหย่อนภาษี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในโครงการเที่ยวทั่วไทยไปถึงถิ่น คาดว่า เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้
  • สภาธุรกิจตลาดทุนไทย มองกำไร บจ.ปีนี้เติบโต 4% ต่ำกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ส่วนนายกสมาคมโบรกฯ เชื่อต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยไตรมาส 4 หลังหุ้นไทยราคาถูกประเมินกำไรปีหน้าขยับ 10% ส่วนดัชนีเชื่อมั่นเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 3.9%
  • 'อุตตม' สั่งยกร่างแผนขับเคลื่อนคลัสเตอร์อุตฯเป้าหมายรัฐบาลระยะ 2 ยอมรับแผนปฏิบัติแรกสตาร์ตอัพยังกระจัดกระจาย ไม่ตอบโจทย์ เตรียมชงโรดแมป 4 อุตฯ เป้าหมายเข้า ครม.ไม่เกิน ส.ค.นี้ เตรียมหามืออาชีพพร้อมตั้งทีมรับผิดชอบ ผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม
  • ม.หอการค้าไทยประเมินน้ำท่วมอีสาน-เหนือเสียหาย 9,574 ล้านบาท กระทบจีดีพีแค่ 0.06% ฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค. ทุกรายการลดลง 3 เดือนติด ลงมาอยู่ระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือน จี้รัฐเร่งกระตุ้นใช้จ่าย ลงทุนต่อเนื่อง ด้านกรุงไทยเผยไตรมาส 2 นักธุรกิจเชื่อมั่นแผ่วลง เหตุบาทแข็ง-จัดระเบียบต่างด้าว
  • ครม.เห็นชอบเยียวยาเกษตรกรน้ำท่วม 5.6 แสนครัวเรือน ครัวเรือนละ 3,000 บาท ขณะหอการค้าไทยประเมินความเสียหายเหนือ-อีสาน 9.57 พันล้านบาท กระทบจีดีพีแค่ 0.064% ชี้คนไทยกังวลน้ำท่วมเศรษฐกิจไม่ฟื้นทำความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค.ลด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • INGRS (บมจ.อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์)) เริ่มเทรดวันนี้วันแรก สังกัดกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดยานยนต์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยเสนอขาย IPO ที่ 1.33 บาท/หุ้น บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อสะสม" ให้ราคาเป้าหมาย 1.90 บาท ประเมินราคาเป้าหมายปี 61/62 ด้วย PER 12 เท่า เทียบเท่ากับหุ้นในกลุ่มยานยนต์ใน Coverage (STANLY, AH และ SAT) ในขณะที่คาดกำไรปี 61/62 ขยายตัว 30% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 18.0% และคาดเงินปันผล 3.7% พร้อมคาดรายได้เติบโตเฉลี่ย 3 ปี CAGR ที่ 11.2% และคาดกำไรปี 61/62 จะเติบโตเด่นถึง 30% จากออเดอร์ค่ายใหญ่อย่าง Proton และ Perodua

บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายโครงสร้างยานยนต์ กรอบประตู ท่อรวมไอเสีย และชิ้นส่วนตัดแต่งให้กับค่ายรถชั้นนำของโลก (OEMs) ผ่าน มาเลเซีย ไทย อินโดเนเซีย และอินเดีย

  • QH (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 3.40 บาท Q2/60 รายได้รวม 4.41 พันล้านบาท สูงขึ้น 28% QoQ แต่ลดลง 19.5% YoY และกำไรสุทธิที่ 776 ล้านบาท สูงขึ้น 19% QoQ แต่ลดลง 13% YoY เชื่อผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วใน Q1/60 และเชื่อ H2/60 ยอด Presales และยอดโอนจะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากการเปิดโครงการใหม่ โดย Q3/60 จะรับรู้กำไรพิเศษจากดีล LHBANK โดยที่ไม่มีความเป็นห่วงด้านกำไร เนื่องจาก QH สามารถจัดการลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • MTLS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 39 บาท กำไรสุทธิ Q2/60 แข็งแกร่งตามคาดที่ 571 ลบ. +6.5% Q-Q, +90% Y-Y รายได้รวมโดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยโตแข็งแกร่ง สอดคล้องยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ Loan spread และ Loan per branch กลับมาเติบโต หลังชะลอตัวลงในไตรมาสก่อน ส่วน NPL ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 1.18% แนวโน้มกำไร H2/60 ดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะเป็นฤดูกาลของสินเชื่อและคาดค่าใช้จ่ายเปิดสาขาชะลอลง
  • TRC (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 1.53 บาท รายงานกำไร Q2/60 ที่ 71 ล้านบาท +270%YoY และ +275%QoQ แม้ว่ารายได้จะปรับตัวลงเกือบครึ่งหนึ่งสู่ระดับ 436 ล้านบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 38% จากระดับปกติที่ 20% จากคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าที่ตั้งงบไว้ตอนเริ่มก่อสร้างส่งผลให้บันทึกกำไรเข้ามาเพิ่มเติม และมีประเด็นบวกเตรียมเข้าร่วมงานประมูลงานท่อก๊าซ PTT เส้นที่ 5 พร้อมพันธมิตรมูลค่าราว 9.6 หมื่นล้านบาทคาดรู้ผลเดือนต.ค.-พ.ย. ส่วนโครงการ APOT แม้ว่าก.คลังจะเพิ่มทุนเข้ามาแต่ยังมีกระบวนการใส่เงินเพิ่มเติมจากผู้ถือหุ้นและตัวแทนคลังทำให้การเซ็นสัญญาก่อสร้างล่าช้าออกไปโดยคาดว่าจะเซ็นสัญญากับ TRC ได้ภายใน Q4/60

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ