น.พ.พลสันต์ พลัสสินทร์ นักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาล (M&A) หรือเข้าไปร่วมทุน (JV) จะมีความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ จากที่ได้เจรจาอยู่ราว 2-3 ราย โดยบริษัทมีเงินทุนรองรับไว้แล้วหากมีการลงทุนเกิดขึ้น ทั้งจากกระแสเงินสดและเงินกู้จากสถาบันทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.38 เท่า ทำให้ยังมีความสามารถในการกู้ยืมได้อีกมาก
ส่วนแผนการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในปี 61-62 บริษัทจะเปิดให้บริการโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 จ.ปราจีนบุรี ในช่วงต้นปีหน้า และในปีถัดไปมีแผนที่จะเปิดให้บริการโรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง CHG กับแพทย์ในพื้นที่
น.พ.พลสันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/60 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 2/60 เนื่องจากเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล เพราะเป็นช่วงของฤดูฝนทำให้มีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทั้งจากโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคเรื้อรังต่างๆ
พร้อมกันนั้น มองว่าแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ตามปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งช่วงที่ผ่านมาบริษัทขยายจำนวนเตียงของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ชลเวช จ.ชลบุรี เพิ่มเป็น 50 เตียง จากเดิม 28 เตียง งบลงทุนราว 200 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนเตียงรวมของทุกโรงพยาบาลในเครือทั้งสิ้น 580 เตียง ถือว่าเพียงพอต่อการรองรับจำนวนผู้ป่วยที่จะเข้ามารักษาเพิ่มมากขึ้น และน่าจะส่งผลดีต่อรายได้รวมทั้งปีเติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 10-15% โดยสัดส่วนรายได้มาจากผู้ป่วยเงินสดและประกันชีวิตราว 55% และผู้ป่วยสวัสดิการภาครัฐ 45%
"ไตรมาส 3/60 ถือว่าเป็นช่วงของไฮซีซั่นอยู่แล้วที่จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 2/60 จากเป็นช่วงฤดูฝนที่ปกติจะมีผู้ป่วยจำนวนมากเข้ามารักษา ประกอบกับเรายังมีผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ที่ยังมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังน่าจะยังเติบโตไปได้"น.พ.พลสันต์ กล่าว