นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) กล่าวว่า บริษัทมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีผลการดำเนินงานที่ดี ขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) และแรงหนุนจากปริมาณการผลิตและกำไรที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการเพื่อความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นในช่วงปีนี้ คาดว่าจะส่งผลให้กำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"ผมมั่นใจว่า การปรับเปลี่ยนธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับขนาดและการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่ดีที่สุด จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง"นายอาลก กล่าว
นายอาลก กล่าวว่า โครงการขยายกำลังการผลิต PTA ของโรงงานในเมืองร็อตเตอร์ดัม เสร็จสิ้นการปรับแต่งระบบครั้งสุดท้ายและเริ่มการผลิตเรียบร้อย โดยจะส่งผลต่อรายได้ในไตรมาส 3/60 โรงงานแห่งนี้มีการบูรณาการระหว่าง PET และ PTA ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุโรป ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าโครงการก๊าซแครกเกอร์ในสหรัฐ กำลังการผลิต 440,000 ตัน/ปี จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งกว่า 90% ของผลผลิตที่ได้จากโรงงานจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานผลิต EO/EG ของบริษัทในรัฐเท็กซัส ทำให้เกิดการบูรณาการเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการบูรณาการแบบครบวงจร รวมถึงการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน
ปัจจุบัน บริษัทมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ HVA ต่อปี ราว 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีผลิตภัณฑ์หลายประเภทเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่าง ซึ่งในแต่ละตลาดมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ประมาณ 7% เมื่อเทียบปีต่อปี ตลาดยานยนต์เป็นตลาดหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA ของบริษัท ขณะที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน
ชณะที่การเข้าซื้อกิจการบริษัท Glanzstoff ซึ่งได้ประกาศไปล่าสุดนั้น ประกอบด้วยโรงงานสร้างใหม่ในมณฑลซานตง ประเทศจีน รวมถึงโครงการขยายการผลิตของโรงงาน Performance Fibers ในเมืองไคปิง ประเทศจีน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งแรกของปี 61 จะส่งผลให้บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 บริษัทมีรายได้รวม 2,089 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานตามแผน ส่งผลให้ปริมาณการผลิตในไตรมาสนี้ลดลง 4% มาอยู่ที่ 2.22 ล้านตัน
กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) เพิ่มขึ้น 9% อยู่ที่ 239 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลจากการลงทุนอย่างรอบคอบในธุรกิจผลิตภัณฑ์ HVA ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรสูง รวมทั้งการบูรณาการไปยังวัตถุดิบหลักในตลาดที่อุปสงค์และอุปทานมีความสมดุล และการลงทุนในภูมิภาคหลักในเวลาที่เหมาะสม กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 286 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในขณะที่อัตรากำไรแบบควบรวมของอุตสาหกรรม 12 เดือนสิ้นสุดไตรมาสที่ 2/60 มีความแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับแนวโน้มการลดลงของตัวเลขดังกล่าวที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในด้านกำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 อยู่ที่ระดับ 2,937.08 ล้านบาท ลดลงจาก 5,949.54 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิช่วงครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ 7,36.55 ล้านบาท ลดลงจากระดับ 10,054 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน
IVL ยังชี้แจงเพิ่มเติมในคำอธิบายงบการเงินในไตรมาส 2/60 ด้วยว่า บริษัทประกาศการใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการลงทุนเพื่อการเติบโตและการบำรุงรักษาระหว่างปี 60-63 นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันบริษัทเชื่อว่าจะมีโอกาสในการลงทุนประมาณ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มเติมจากประมาณการของเงินสดที่เหลือภายในบริษัทและความสามารถในการกู้ยืมอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ บริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างมีระเบียบวินัย และดำเนินการตามกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างรอบคอบในธุรกิจ HVA ที่มีอัตรากำไรสูงกว่าการควบรวมไปยังวัตถุดิบหลัก และการลงทุนที่ถูกเวลาในภูมิภาคหลัก