นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบอยู่ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สร้างความกดดันต่อความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น
โดยจากความกังวลสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ทำให้ผลตอบแทนจากพันธบัตรของสหรัฐฯปรับตัวขึ้น ขณะที่ปัจจุบันหุ้นอยู่ในระดับที่สูงแล้ว และระยะสั้นคงจะไม่ได้เห็นการปรับประมาณการเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้น นักลงทุนจึงอาจปรับพอร์ตการลงทุนในระยะสั้นได้ นอกจากนี้มอง 1 เดือนข้างหน้าตลาดฯอาจมีความผันผวนได้แถว 1,530-1,550 จุด
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวได้ตามผลประกอบการที่ออกมาดี และมี Valuation ไม่แพง พร้อมให้ถือเงินสดไว้ 30-40% ของพอร์ต เพื่อรอจังหวะในการซื้อหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ นอกประเทศเวลานี้ก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ก็ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และทิศทางผลตอบแทนพันธบัตร
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,568-1,577 จุด