นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ครึ่งปีหลังตลาดทั้งในและต่างประเทศคาดจะมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับเริ่มเข้าช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยผลักดันให้ยอดขายของบริษัทเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ บริษัทได้มีกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายในทุกช่องทาง ประกอบกับรายได้จากการส่งออกของบริษัทยังเติบโตต่อเนื่อง แม้ภาพรวมการส่งออกผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ของประเทศยังติดลบ
ในส่วนความคืบหน้าล่าสุดการลงทุนด้านพลังงาน บริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งผลการดำเนินงานจากธุรกิจพลังงาน ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/60 โดยโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล บริษัท ไพร์ซ ออฟ วู้ด กรีน เอนเนอร์จี จำกัด (PWGE) ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
“แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในช่วงต่อจากนี้คาดว่า จะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์คาดว่าจะเติบโตที่ 10% และบริษัทย่อยที่ลงทุนด้านพลังงาน ECF-POWER จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งผลการดำเนินการในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้รายได้ของบริษัทมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน" นายอารักษ์ กล่าว
ECF แจ้งผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก 60 งบการเงินรวมบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 727.19 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 691.79 ล้านบาท จำนวน 35.59 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.15% และมีกำไรสุทธิ 23.53 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 18.76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนไตรมาส 2/60 มีกำไรสุทธิ 4.9 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.008 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.98 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.007 บาท
นายอารักษ์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกที่เกิดขึ้น กำไรจากการดำเนินงานยังไม่มีการเติบโต เนื่องจากบริษัทยังมีค่าใช้จ่ายจากการศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงาน รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่เกิดจากการออกหุ้นกู้เพื่อเตรียมความพร้อมในการลงทุนด้านพลังงาน ในขณะที่ยังไม่มีรายได้ในเชิงพาณิชย์รับรู้เข้ามา อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความมั่นใจว่าการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวจะสามารถสร้างการเติบโตและเพิ่มผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัทได้ในอนาคต
สำหรับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรก มาจากธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารามียอดขายเติบโตสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยังคงมีออเดอร์ลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ 58% ภายในประเทศ 42% โดยกลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นญี่ปุ่น ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ สามารถจัดหาลูกค้ารายใหม่ในญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติม