บมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 มีกำไรสุทธิ 2,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับกำไร 2,761 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิและรายได้หรือค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (Normalized Net Profit :NNP) ระดับ 2,827 ล้านบาท และมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ซึ่งไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน อยู่ที่ระดับ 5,483 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 14,013 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งมาจากทั้งธุรกิจโคเจนเนอเรชั่นและธุรกิจไอพีพี โดยปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบการในงวดครึ่งแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 4,728 ล้านบาท ลดลงจากระดับกำไรสุทธิ 5,526 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี NNP ลดลงราว 18% มาที่ระดับ 4,539 ล้านบาท , EBITDA ลดลง 11% มาที่ 9,255 ล้านบาท และรายได้รวม ลดลง 7% มาที่ 26,149 ล้านบาท ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1/60
"ผลการดำเนินงานในไตรมาสสองของปี 60 ที่ออกมาดีเยี่ยม เป็นผลมาจากปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมที่สูงอย่างต่อเนื่อง และความพร้อมในการผลิตไฟฟ้าของหน่วยผลิตที่อยู่ในระดับสูง กำไรสำหรับกลุ่มธุรกิจโคเจนเนอเรชั่นยังสะท้อนการปรับตัวสูงขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการปรับเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม โดยผลประกอบการนี้นับรวมรายการรายได้อื่น ๆ ที่ไม่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ (Non-Recurring Other Incomes) เช่น สินไหมชดเชยรายได้ที่สูญหายไปจากการเคลมประกันภัยของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน"นายเบรนดอน วอเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าว