นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทยลิสซิ่ง (MTLS) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในช่วง3 ปี (ปี 61-63) เติบโตเฉลี่ย 30-40% ต่อปี พร้อมกับตั้งเป้าขยายสาขาปีละ 600 สาขา โดยใช้เงินลงทุนสำหรับการขยายสาขาเฉลี่ย 5 แสนบาท/สาขา ซึ่งจะทำให้มีทั้งสิ้น 4,000 สาขาภายในปี 63 ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น
ประกอบกับบริษัทยังมองโอกาสการขยายตัวของสินเชื่อที่มากขึ้นจากการกลยุทธ์การดึงดูดกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิตเข้ามาเสริมการขยายตัวของสินเชื่อในอนาคต หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกเกณฑ์ควบคุมการให้วงเงินบัตรลดลงเหลือ 1.5 เท่าของฐานเงินเดือน จากเดิมที่ 5 เท่าของฐานเงินเดือน ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการเข้าไปรุกตลาดในกลุ่มลูกค้าดังกล่าว ซึ่งมีข้อมูลเครดิตบูโร มีรายได้ประจำ และมีประวัติการผ่อนชำระ
ส่วนแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้บริษัทยังมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่เติบโต 50% โดยมีการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้อยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท จากระดับ 3.5 หมื่นล้านบาทในปีก่อน โดยครึ่งปีแรกบริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังการขยายตัวของสินเชื่อจะมากกว่าครึ่งปีแรก ตามความต้องการสินเชื่อที่สูง เพราะในช่วงเทศกาลปลายปี ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงที่มีพืชผลการเกษตรจะมีออกมา ทำให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเกษตรกรมีความต้องการใช้เงินเพื่อการลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม
ประกอบกับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเป็นหนึ่งในปัจจัยหนุนความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นได้บ้าง เพราะจะมีกลุ่มลูกค้าที่ประสบภัยน้ำท่วมต้องการใช้เงินเพื่อฟื้นฟูที่อยู่อาศัย และกิจการร้านค้าต่าง ๆ หลังจากน้ำท่วมผ่านพ้นไป
นายชูชาติ กล่าวว่า สำหรับการขยายสาขาในปีนี้บริษัทจะขยายได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 600 สาขา อีกราว 50-60 สาขา โดยจะเป็นการขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้จำนวนสาขาในปีนี้มีทั้งหมด 2,250-2,260 สาขา ซึ่งในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาสามารถขยายสาขาได้แล้ว 2,200 สาขา
ด้านสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้บริษัทยังควบคุมให้อยู่ที่ระดับ 1.1-1.2% จากครึ่งปีแรกที่ NPL อยู่ที่ 1.18% โดยมองว่าระดับของ NPL ยังมีความไม่แน่นอนในบางช่วง ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นและลดลงได้ แต่การขยายสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ฐานสินเชื่อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับ NPL ไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่การติดตามหนี้ของบริษัทยังมีประสิทธิภาพ และยังไม่เห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ที่น่ากังวลมากนัก แม้ว่าปัจจุบันจะมีความกังวลในเรื่องรายได้ของเกษตรกรที่ลดลง ซึ่งกล่มลูกค้าเกษตรกรเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท และการตั้งสำรองของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่สูง โดยมี Coverage Ratio ที่ 200%
“ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ทุกอย่างเติบโต 50% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ว่าครึ่งปีแรกผลการดำเนินงานที่ออกมาจะดีกว่าที่คาดไว้ แต่เราก็ยังไม่ปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้น ยังคงอยู่ที่เป้าเดิมและมองว่าครึ่งปีหลังก็คงจะดีกว่าครึ่งปีแรก"นายชูชาติ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการออกหุ้นกู้มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ในวันที่ 31 ส.ค. ที่จะถึงนี้ เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมกับมีแผนเดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนต่างชาติในช่วงวันที่ 17-18 ส.ค.นี้ ที่ประเทศฮ่องกง และในเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้ เดินทางไปโรดโชว์ที่นิวยอร์กและซานฟรานซิสโก และในเดือน พ.ย.นี้ จะเดินทางไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยบริษัทยังไม่ได้คาดหวังการเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติที่ปัจจุบันถือหุ้น MTLS ในสัดส่วน 5.3% โดยวัตถุประสงค์ของการเดินทางไปโรดโชว์ครั้งนี้เพื่อเป็นการอัพเดทข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ถือหุ้นของบริษัทอยู่เป็นหลัก