โบรกเกอร์ เห็นพ้องแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) จากมุมมองบวกผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายสาขาเชิงรุกตามเป้าหมายขยายสาขาสู่ 2,200 สาขาในปีนี้ และเน้นในพื้นที่ที่ยังมีสาขาไม่ครอบคลุมมากนัก โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคใต้ เพื่อขยายฐานลูกค้า ประกอบกับตลาดยังมีความต้องการเงินเพื่อใช้รักษาสภาพคล่องค่อนข้างมากในช่วงที่เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวได้ช้า โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้หลัก
อย่างไรก็ตาม ในด้านของ NPL แม้จะปรับเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่น่ากังวล เพราะ MTLS ตั้งสำรองระดับสูงสามารถรองรับ NPL ที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้อีก
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 3/60 อาจจะทรงตัวจากไตรมาส 2/60 รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่เชื่อว่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/60 จากการกู้เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และเพื่อการเกษตร รวมทั้งเชื่อว่าจะได้รับประโยชน์จากเกณฑ์คุมเข้มสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของธปท.ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ก.ย.นี้
ราคาหุ้น MTLS ช่วงบ่ายอยู่ที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.47% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.08%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ธนชาต ซื้อ 38.00
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซื้อ 46.00
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 39.00
เออีซี ซื้อ 37.50
ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ซื้อ 42.00
เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 40.00
กสิกรไทย ซื้อ 39.00
เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 40.00
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า MTLS ยังมีแนวโน้มที่เป็นเชิงบวก เนื่องจากทิศทางผลประกอบการที่จะออกมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามการขยายสาขาที่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ประกอบกับ สถานการณ์ต่าง ๆ ยังเอื้อที่จะทำให้เกิดความต้องการเงินสำหรับรักษาสภาพคล่อง ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เอื้อต่อการเติบโตของสินเชื่อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
อย่างไรก็ตาม MTLS ยังมีความเสี่ยงจากการปรับตัวสูงขึ้นของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.2% แต่ยังไม่ถือว่าต้องกังวลมากนัก เนื่องจากมีการตั้งสำรองในระดับที่สูงมาก เชื่อว่าหากเกิดสถานการณ์ที่เป็นปัญหาจริงก็จะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาผลประกอบการของ MTLS ถือว่าเติบโตได้ค่อนข้างดี และเติบโตมากกว่าที่เราคาดไว้เล็กน้อย และในช่วงครึ่งปีหลังเราก็ยังมองว่าจะมีการเติบโตที่ค่อนข้างสดใสต่อไป ส่วนเรื่องของ NPL ยังคงต้องติดตามต่อไป แต่ไม่ได้น่ากังวลเพราะว่า MTLS เองมีการตั้งสำรองไว้เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว หากเกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ ก็คงจะกระทบกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ตอนนี้เราไม่ได้เห็นสัญญาณว่าจะมีปัญหาอะไร"นายประกิต กล่าว
ทั้งนี้ MTLS เพิ่งประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2/60 มีกำไรสุทธิระดับ 571.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับกำไรสุทธิ 300.29 ล้านบาทในงวดปีก่อน ส่งผลให้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ทำกำไรสุทธิได้ 1.11 พันล้านบาท จาก 580.3 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกปีที่แล้ว
ด้าน บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ค่อนข้างมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มเติบโตของ MTLS จากศักยภาพของการขยายพอร์ตลูกหนี้ที่แข็งแกร่งและแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากพอร์ตสินเชื่อนาโนที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้น หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการเข้มควบคุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งคาดเริ่มเห็นผลบวกหลังบังคับใช้เกณฑ์ใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ การเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ที่เร็วกว่าคาดมาก บวกกับความสามารถคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ทำให้กำไรสุทธิของ MTLS ในช่วงครึ่งแรกปีนี้ คิดเป็น 52.3% ของประมาณการเดิม ทำให้ปรับประมาณการกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 60 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 9.1%
ภายใต้ประมาณการใหม่คาดว่า MTLS จะมีกำไรสุทธิในปี 60 จำนวน 2.32 พันล้านบาท หรือเติบโต 58.2% หนุนด้วยความต้องการเงินด่วนที่ยังมีอยู่มากในช่วงที่เศรษฐกิจนประเทศยังฟื้นตัวได้ช้า โดยเฉพาะจากกลุ่มเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้หลักของ MTLS บวกกับแผนขยายสาขาเชิงรุกตามเป้าหมายขยายสาขาสู่ 2,200 สาขาในปีนี้ โดยเน้นพื้นที่ที่ยังมีสาขาครอบคลุมไม่มากนัก อย่างภาคตะวันออกและภาคใต้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกหนี้ใหม่ ๆ มากขึ้น
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ MTLS ในช่วงไตรมาส 3/60 คาดวาจะทรงตัวจากไตรมาส 2/60 แม้ MTLS จะยังคงขยายสาขาต่อเนื่อง แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มองว่า MTLS น่าจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสาขา และคุณภาพสินเชื่อจะลดลงตามความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ของผู้ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม
แต่อย่างไรก็ตามมองว่าผลการดำเนินงานของ MTLS จะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/60 ตามปัจจัยต่างๆ จากการกู้เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และเพื่อการเกษตร รวมทั้งการปรับข้อบังคับของสินเชื่อบัตรเครดิตของธปท. จะส่งผลบวกต่อการดำเนินงานในไตรมาส 4/60 ด้วย