TISCO มั่นใจพอร์ต SCBT หนุนสินเชื่อปีนี้โตแม้ครึ่งปีแรกหดตัว 3% เผยทิศทาง NPL ดีขึ้น-ตั้งสำรองลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 10, 2017 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยง ธนาคารทิสโก้ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) เปิดเผยว่า ธนาคารมั่นใจว่าสินเชื่อรวมปีนี้จะเติบโตได้ในระดับ 10% ถึงแม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัวไปถึง 3% หลังจากมีการโอนพอร์ตรายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) (SCBT) เข้ามา จะช่วยหนุนให้สินเชื่อรวมเติบโตได้มาก

ทั้งนี้ หลังจาก TISCO ตกลงเข้าซื้อธุรกิจรายย่อย SCBT ได้มีการทยอยโอนสินทรัพย์และหนี้สินธุรกิจรายย่อยเข้ามายัง TISCO ซึ่งจะเสร็จสิ้นในสิ้นปีนี้ โดยลูกค้าจาก SCBT จะเพิ่มเข้ามา 3 แสนราย เป็นลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล 1 แสนราย ลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัย 1.6 หมื่นราย และ ลูกค้าเงินฝาก 7-8 หมื่นราย โดยปัจจุบัน TISCO มีลูกค้ารายย่อย 1 ล้านราย

ปัจจุบันสัดส่วนสินเชื่อของธนาคารแบ่งเป็นสินเชื่อรายย่อย 70% สินเชื่อรายใหญ่ 20% และสินเชื่อเอสเอ็มอี 10% โดยหลังควบรวมสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยจะเพิ่มขึ้นเป็น 80% สินเชื่อรายใหญ่ และ สินเชื่อเอสเอ็มอีรวมกัน 20%

"แม้ว่าในทิศทางยอดขายรถในช่วงที่ผ่านมาจะมีการเติบโต แต่สินเชื่อเช่าซื้อของเราหดตัว เนื่องจากการแข่งขันปล่อยสินเชื่อนั้นค่อนข้างรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามเราจะได้รับลูกค้า SCBT เข้ามาจะช่วยให้เรายังคงเติบโตได้"นายชาตรี กล่าว

นายชาตรี กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาระดับหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในสิ้นปีนี้คาดว่าจะควบคุมไม่ให้เกิน 2.41% หรืออาจจะปรับตัวลดลงกว่านั้น เพราะแนวโน้ม NPL ของธนาคารปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหลักมาจากสินเชื่อรถยนต์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และจากสถานการณ์ที่ดีขึ้นดังกล่าวจะส่งผลให้การตั้งสำรองในครึ่งปีหลังลดลงไปด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารตั้งสำรองมากกว่า 2% ของพอร์ตสินเชื่อรวม แต่ในช่วงครึ่งปีแรกธนาคารตั้งสำรอง 1.2% ของพอร์ตสินเชื่อรวมที่อยู่ 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งสิ้นปีนี้พอร์ตสินเชื่อของธนาคารจะขยับสูงขึ้นแตะระดับ 2.4-2.5 แสนล้านบาท

ส่วนอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (Coverage Ratio) ในสิ้นปีนี้ธนาคารตั้งเป้ารักษาไม่ให้ต่ำกว่า 172% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปัจจุบัน โดยเงินกองทุนของธนาคารก็ยังเพียงพอต่อการขยายธุรกิจ สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ทางธนาคารยังไม่มีแผนที่จะซื้อธุรกิจเพิ่มเติม แต่ในปีถัดๆไปหากมีโอกาสและราคาเหมาะสมก็มีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ