นายพินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แพลนบี มีเดีย (PLANB) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ บริษัท มาสเตอร์ สแตนดาร์ด ดิสเพลย์ จำกัด บริษัทย่อยซึ่งแพลนบีถือหุ้น 100% เข้าซื้อหุ้นของบริษัท เจเคเจ มีเดีย เซอร์วิส จำกัด (เจเคเจ) ผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยของฟิลลิปปินส์ ในสัดส่วน 30% โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 216 ล้านเหรียญเปโซฟิลิปปินส์ (เทียบเท่า 144.5 ล้านบาท)
ทั้งนี้ เจเคเจ เป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย และเป็นเจ้าของป้ายโฆษณาภาพนิ่งขนาดใหญ่ทั่วประเทศฟิลลิปปินส์ทั้งหมด 46 ป้ายใน 23 ทำเล โดยเจเคเจอยู่ภายใต้การบริหารงานของ Paul James Sapwell ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง CEO ในบริษัทสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยชั้นนำในภูมิภาคและมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ในภูมิภาคมากกว่า 30 ปี และด้วยความเชี่ยวชาญในการให้บริการนวัตกรรมสื่อโฆษณาฯ ที่หลากหลายของแพลนบี จะช่วยให้การขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยประเภทต่างๆ ในฟิลลิปปินส์ โดยเฉพาะการขยายสื่อโฆษณาดิจิตอลให้ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับการลงทุนในประเทศฟิลลิปปินส์ครั้งนี้ถือเป็นประเทศที่ 4 ของแผนการขยายสื่อโฆษณาฯ ให้ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน ต่อเนื่องจากการลงทุนใน แซงจูรี่ บิลบอร์ด ประเทศมาเลเซีย, PT Estha Yudha Ekatama (EYE) ประเทศอินโดนีเซีย และปัญญาทิพย์ แพลนบี มีเดีย ลาว คิดเป็นเงินลงทุนในภูมิภาคอาเซียนทั้งหมด 296.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ไปสู่ผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยอันดับหนึ่งของภูมิภาค เพื่อให้บริการเครือข่ายสื่อโฆษณาฯ ที่ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมทั่วภูมิภาคอาเซียน โดยความร่วมมือของพันธมิตรทางธุรกิจในท้องถิ่นของแต่ละประเทศที่มีความชำนาญในตลาดประเทศนั้นๆ เพื่อสามารถเข้าถึงงบประมาณโฆษณานอกที่อยู่อาศัยมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีของภูมิภาคนี้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/60 บริษัทฯมีรายได้ทำสถิติใหม่ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ที่ 734 ล้านบาท เติบโต 20.7% จากปีก่อนหน้า มาจากการเติบโตของสื่อโฆษณาทุกประเภท โดยเฉพาะสื่อโฆษณาในสนามบิน และสื่อโฆษณาดิจิตอลนอกที่อยู่อาศัยที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการผลิตสื่อ (Media Capacity) ขณะที่ครึ่งแรกของ ปี 60 เพิ่มขึ้นเป็น 2,100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.8% จากปีก่อนหน้า ด้านผลกำไรเท่ากับ 121.0 ล้านบาท เติบโต 9.4% จากปีก่อนหน้า ผลกำไรในไตรมาสนี้ขยายตัวต่ำกว่าการเติบโตของรายได้ เนื่องจากการลงทุนขยายพื้นที่สื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีค่าเสื่อมราคา และค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้สื่อโฆษณาสูง (High Season) บริษัทฯ มีความพร้อมและศักยภาพในการให้บริการเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดเพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ด้วยสถิติใหม่ (New High) อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับโครงสร้างต้นทุนของบริษัทที่มีต้นทุนคงที่ในสัดส่วนที่สูงจะผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิช่วงครึ่งปีหลังสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ