บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/60 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 218 ล้านบาท หรือ 43.2%
ในส่วนของรายได้ บริษัทมีรายได้รวม จานวน 3,735 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 791 ล้านบาท หรือ 26.9% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ทั้ง 3 ธุรกิจหลัก มีปัจจัยสำคัญจากการเปิดให้บริการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก (SOE) และการให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบารุงรักษาระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งทั้งสองโครงการเปิดให้บริการเมื่อเดือน ส.ค.59 ในด้านต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้นตามโครงการที่เปิดให้บริการเพิ่ม
ส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงเนื่องจากในไตรมาส 2/59 มีการปรับโครงสร้างทางการเงินส่งผลให้เกิดค่าธรรมเนียมทางการเงินจากการชำระคืนหนี้ก่อนกำหนดบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในคราวเดียว จำนวน 212 ล้านบาท แต่ไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าวในปีนี้
ขณะที่ผลประกอบการครึ่งแรกของปี 60 มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท 1,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 218 ล้านบาท หรือ 18.1% โดยบริษัทมีรายได้รวม จำนวน 7,505 ล้านบาท เพิ่มขึ่น 1,502 ล้านบาท หรือ 25% ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้นตามโครงการที่เปิดให้บริการเพิ่ม ขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินใกล้เคียงกับปีก่อน
ในช่วงไตรมาส 2/60 BEM ได้ลงนามในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เมื่อวันที่ 31 มี.ค.60โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 33 ปี ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง และบางซื่อ-ท่าพระ) โดยจะเป็นการเดินรถต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน (Through Operation)
รวมทั้งได้ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อการก่อสร้างทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวน รอบนอกฯ กับทางพิเศษศรีรัชด้านทิศเหนือ (มุ่งหน้าแจ้งวัฒนะ) เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 โดยมีระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 18 เดือน ซึ่งการเชื่อมต่อนี้จะทำให้ผู้ใช้ทางพิเศษได้รับความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ BEM มีกำหนดเปิดให้บริการเดินรถช่วงสถานีบางซื่อ-สถานีเตาปูน ในวันที่ 11 ส.ค.60 ซึ่งจะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงกับสายสีน้ำเงินสมบูรณ์และประหยัดเวลามากขึ้น