(เพิ่มเติม) JWD คาดสรุปซื้อกิจการอย่างน้อย 2 รายปีนี้จากเจรจาในเวียดนาม-อินโดฯ-ไทยคาดใข้งบไม่ต่ำกว่า 500 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 11, 2017 15:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการ 4-5 ราย แบ่งเป็นในเวียดนาม 1 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย และในประเทศไทยอีก 2-3 ราย ซึ่งเป็นกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางเรือ ทางทะเล และทางอากาศ การเป็นตัวแทนของผู้ส่งสินค้า (Freight Forwarder) และกลุ่มบริหารท่าเรือ โดยคาดว่าในปีนี้จะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 2 ดีล ด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านลบาท

สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้เงินสถาบันทางการเงิน ขณะที่บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1 เท่า และการออกหุ้นกู้ที่บริษัทได้ข้อวงเงินจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และในช่วงที่ผ่านมาแสนอขายไปแล้ว 500 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับ BBB+

บริษัทฯมั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่มองแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ น่าจะได้รับผลดีจากธุรกิจหลักที่คาดจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายการลงทุนทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนในช่วงที่ผ่านมา

พร้อมทั้งคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 30% สูงกว่าก่อนที่ 29.3% โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 30% ซึ่งเป็นผลมาจากทุกๆธุรกิจของบริษัทฯเติบโตได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะในธุรกิจห้องเย็นที่ให้มาร์จิ้นที่ค่อนข้างสูง

"ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องและเติบโตได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากเข้าชสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจขนส่ง ทั้งการขนส่งภายในประเทศ และการขนส่งระหว่างประเทศ โดยหากไม่เกิดสถานการณ์ไดๆที่ไม่คาดคิดคิดฏ้เชื่อว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 7%"นายชวนินทร์ กล่าว

นายชวนินทร์ กล่าวว่า ธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ (JWD Chemical Supply Chain หรือ JCS) สามารถถึงจุดคุ้มทุนและเริ่มมีกำไรได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากมีอัตราการใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนธุรกิจรับส่งสินค้าด่วน (JWD Express) ที่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้รับงานจากลูกค้าใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการห้างค้าปลีกสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้านชั้นนำในตลาด ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง

ขณะที่ธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ชิ้นส่วนยานยนต์อย่างครบวงจรภายใต้บริษัท สยาม เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มสยามกลการอุตสาหกรรม ได้ขยายการรับงานใหม่ให้แก่โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในเครือสยามกลการ รวมถึงเตรียมขยายการให้บริการไปยังลูกค้าใหม่ที่อยู่นอกเครือสยามกลการ น่าจะส่งผลดีต่อการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการลงทุนในบริษัทร่วมทุน รวมถึงธุรกิจให้บริการคลังสินค้าใน สปป.ลาว เมียนมาร์และกัมพูชา ก็มีความต้องการใช้พื้นที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

"หลังจากที่เราขยายการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาได้เริ่มเก็บเกี่ยวรายได้เพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานที่กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่วนในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ เรายังเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 7% ตามแผนที่วางไว้ รวมทั้งยังคงพิจารณาขยายการลงทุนภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมและสามารถผลักดันการเติบโตในอนาคต"นายชวนินทร์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการร่วมนำสินทรัพย์ที่เป็นคลังสินค้าห้องเย็นและคลังสินค้าสำหรับจัดเก็บเอกสารของ JWD และบริษัทย่อยฯ เสนอขายให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า (REIT) นั้น ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาร่วมกัน ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมีอีกหลายทางเลือกของแหล่งเงินทุนอื่น ๆ เช่น หุ้นกู้ ตราสารหนี้ รวมถึงกระแสเงินสดคงเหลือของบริษัทฯ

นายชวนินทร์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 49.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 551% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.6 ล้านบาท และยังสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ 40.3 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการให้เช่าและการให้บริการอยู่ที่ 577.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการให้เช่าและการให้บริการ 557.6 ล้านบาท และยังสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้จากค่าเช่าและการให้บริการ 572.8 ล้านบาท แม้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น

ส่วนช่วง 6 เดือนแรก บริษัทฯมีรายได้จากการให้เช่าและการให้บริการทั้งสิ้น 1,150.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการให้เช่าและบริการ 1,103.4 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 89.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 53.7 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ