นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกเหนือจากงานที่มีอยู่ในมือแล้ว บริษัทฯยังเตรียมพร้อมเข้าประมูลงานเพิ่ม อีกทั้งยังมีงานเสาส่งสื่อสารโทรคมนาคมของภาคเอกชนที่ทยอยเดินหน้าขยายการลงทุนรองรับ 4 จี อีกเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายตู้สวิตช์บอร์ด ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้น เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
ในส่วนของโครงการก่อสร้างสายส่งและสถานีไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ ในลาว บริษัทยังคงยืนยันว่าโครงการยังคงเดินหน้าต่อ เพียงแค่ยังรอผลสรุปกับทางการไฟฟ้าลาว
ส่วนความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงงานผลิตเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม และบริการชุบกัลวาไนซ์ (สังกะสี) กำลังการผลิต 7,500 ตัน/ปี และชุบสังกะสี 24,000 ตัน/ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/61 นอกจากนี้ SCI ยังได้เข้าไปเจรจากับภาครัฐของกัมพูชา เพื่อหาแนวทางการลงทุนระบบไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ โดยอาจจะเป็นการลงทุนจากภาครัฐเอง หรือหาภาคเอกชนไปลงทุน
ด้านความคืบหน้าการขยายการลงทุนพลังงานทดแทน เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับ SCI ผ่าน บริษัท ที ยูทิลิตี้ส์ จำกัด (TU) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) โดย SCI ถือหุ้น 40% PF ถือ 40% ส่วนที่เหลือเป็นของพันธมิตร โดยช่วงที่ผ่านมาได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมด 12 แห่งเพื่อลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงาน กำลังการผลิตประมาณ 25 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ทันภายในปีนี้
ขณะเดียวกัน TU ยังมีแผนลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่คาดว่าภาครัฐจะเปิดให้ยื่นคุณสมบัติในช่วงปลายปีนี้ 100-300 เมกะวัตต์ โดยในช่วงที่ผ่านมา TU ได้มีการตั้งเสาวัดกังหันลม ใน 4 โครงการ โดยตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตแห่งละ 45 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิตรวม 180 เมกะวัตต์ เพื่อรอยื่นเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้
“หลังจาก TU มีการลงทุนในโครงการน้ำประปา โซลาร์รูฟท็อป โรงไฟฟ้าพลังงานลม ตามแผน เราก็พร้อมนำ TU เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปี 2563 รองรับแผนการขยายธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้ SCI มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น" นายเกรียงไกรกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของ SCI ในไตรมาส 2/60 มีรายได้รวม 310.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.57% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 264.06 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.61 ล้านบาท หรือ 184.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 3.58 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการได้รับงานเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่า 850 ล้านบาท ซึ่งเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/60
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 60 มีรายได้รวม 901 .01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 359.11 ล้านบาท หรือ 66.27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 541.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 9.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น17.77 ล้านบาท หรือ 211.93% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 8.38 ล้านบาท