ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,564.81 จุด ลดลง 2.38 จุด (-0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 17,838.97 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,567.56 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,562.51 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ยืนในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 ที่ออกมา แสดงให้เห็นว่าอ่อนแอ ส่งผลให้นักวิเคราะห์ฯต่างทยอยปรับลดประมาณการ และต่อเนื่องมาถึง EPS ของตลาดโดยรวมที่อาจถูกปรับลดตามไปด้วย ทำให้ Valuation สูงและ upside ของตลาดฯจึงจำกัดมาก
นอกจากนี้ ในแง่ของ Fund Flow เริ่มเห็นการทำ Short ในตลาดฟิวเจอร์ส และเห็นการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้อย่างมีนัยสำคัญแล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯคลี่คลายลง ราคาน้ำมันทรงตัว แต่วันนี้ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ต่อไป แต่มติจะเป็นเอกฉันท์หรือไม่ เพราะมีมุมมองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยช่วยสนับสนุนกำลังซื้อที่ยังคงชะลอตัวได้ พร้อมติดตามวันนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิยของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งก่อนจะระบุถึงการปรับลดขนาดงบดุลของสหรัฐฯหรือไม่
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 918.68 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 889.85 ล้านบาท ปิดที่ 5.20 บาท ลดลง 0.30 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 608.72 ล้านบาท ปิดที่ 496.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 463.52 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 441.45 ล้านบาท ปิดที่ 191.00 บาท ลดลง 1.50 บาท