นายยงเกียรติ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้เหลือเติบโต 1-3% จากเดิมที่คาดเติบโตได้ราว 2-4% ตามการปรับประมาณการยอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.9 ล้านคัน จากเดิมคาดไว้ 2 ล้านคัน ประกอบกับ บริษัทได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาส่งผลต่อยอดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถของคูโบต้าปรับตัวลง โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากคูโบต้าราว 17% ที่เหลือจะเป็นกลุ่มรถยนต์
ทั้งนี้ มองแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้น จากครึ่งปีแรกมียอดผลิตรถยนต์ราว 9.5 แสนคัน ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถของคูโบต้าก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ (Tier-1) จำนวน 1 ราย เพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อการส่งออก คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 4/60 และน่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อไม่ต่ำกว่าเดิมที่บริษัทเคยได้รับคำสั่งซื้อจาก Tier-1 ในประเทศรายหนึ่งที่ผลิตชิ้นส่วนให้มิตซูบิชิ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ขณะเดียวกันก็มองโอกาสการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องและมีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพของบริษัทให้เติบโตในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เช่น เครื่องปลูกมัน และอุปกรณ์ต่อพ่วง เป็นต้น โดยคาดหวังจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ดังกล่าวได้ในอนาคต
นายยงเกียรติ กล่าวว่า สำหรับการร่วมทุนกับ MUBEA ENGINEERING AG ซึ่งเป็นบริษัทใน MUBEA Group เป็นบริษัทผู้นำในด้านการจัดหาชิ้นส่วนประเภท High-performance springs และผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีอื่นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ จะมีการดำเนินการจัดตั้ง บริษัทร่วมทุน ชื่อว่า มูเบีย สมบูรณ์ ออโตโมทีฟ จำกัด ภายในเดือน ก.ย.60 และจะดำเนินการโอนรับกิจการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ บางส่วนของ บริษัท บางกอกสปริงอินดัสเตรียล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SAT ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะเริ่มดำเนินกิจการภายใต้บริษัทใหม่ในต้นปี 61
อย่างไรก็ตาม การร่วมลงทุนในครั้งนี้เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ประเภทสปริง คาดว่าจะใช้งบลงทุนหลัก 10 ล้านบาท และการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทคาดหวังว่าจะช่วยสนับสนุนมาร์เก็ตแชร์ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ราว 30%
นายยงเกียรติ กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนต่างประเทศ ในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ โดยมีแผนโรดโชว์ที่ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์กับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) เพื่ออัพเดทข้อมูลของบริษัทแก่นักลงทุน หลังจากที่ไม่ได้โรดโชว์ในต่างประเทศนานกว่า 2 ปี