(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ เหตุไร้ปัจจัยบวก-ลบชัดเจน แต่เล็งแรงหนุนจากโอกาสเฟดชะลอขึ้นดบ.

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ เนื่องจากตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยบวก-ลบชัดเจน แต่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย เนื่องจากรับผลประเด็นจากเฟด ที่มีความผ่อนคลาย หลังมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังอยู่ระดับต่ำ ทำให้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอาจจะค่อนข้างช้า ส่วนเรื่องการปรับลดงบดุลของสหรัฐฯก็ไม่ชัด ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯถูกขายออกมาอีกครั้ง ส่งผลให้เงินบาทกลับไปอ่อนค่าได้ยาก ดังนั้นเงินทุนก็คงจะไม่ไหลออกมากนัก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายตราสารหนี้ออกมาแล้ว ดังนั้น ภาพ Fund Flow จึงยังเอาแน่นอนไม่ได้ อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ให้เลือกลงทุนเน้นหุ้นที่มีผลประกอบการออกมาดี

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,565-1,572 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,024.87 จุด เพิ่มขึ้น 25.88 จุด (+0.12%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,345.11 จุด ลดลง 12.10 จุด (+0.19%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,468.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.50 จุด (+0.14%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 21.53 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 7.40 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 201.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.15 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 11.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 37.82 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ส.ค.60) 1,567.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด (+0.02%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 122.70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ส.ค.60
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ส.ค.60) ปิดที่ 46.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 77 เซนต์ หรือ 1.6%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ส.ค.60) ที่ 8.48 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 33.24 แข็งค่าจากดอลล์อ่อนหลังรายงานประชุมเฟดห่วงตัวเลขเงินเฟ้อต่ำ
• กนง.มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% มองแนวโน้มเศรษฐกิจขยายต่อเนื่อง สั่งติดตามค่าเงินบาทใกล้ชิดหลังแข็งค่ากว่าสกุลอื่น ห่วงกระทบการปรับตัวของธุรกิจ โดยเฉพาะการทำกำไรผู้ส่งออกยังไม่ได้ออกมาตรการเพิ่ม เผยรอบหน้าเตรียมปรับตัวเลขเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อ นำผลกระทบน้ำท่วม 7.5 พันล้านบาทมาพิจารณา พร้อมเตรียมแถลงตัวเลขในเดือน ต.ค.นี้
• อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอร่างประมูลแข่งขัน (ทีโออาร์) แหล่งก๊าซธรรมชาติที่จะหมดอายุสัมปทานปี 2565-2566 คือแหล่งเอราวัณและบงกช ต่อคณะกรรมการปิโตรเลียม ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเดือน ก.ย. และประกาศเปิดให้ยื่นประมูลในเดือน ต.ค.นี้ โดยเบื้องต้นหลักเกณฑ์การประกาศประมูลแหล่งปิโตรเลียมรายภาค ระบุว่าในอ่าวไทยต้องใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี)
• ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คลังได้รือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นผู้ส่งออกและได้รับความเสี่ยงจากความผันผวนค่าเงิน ทำให้การดำเนินธุรกิจส่งออกมีปัญหา
• พาณิชย์อนุมัติร่างแผนยุทธศาสตร์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แห่งชาติระยะ 5 ปี หวังพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ เพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน ดันมูลค่าค้าขายออนไลน์ขึ้นอีกเท่าตัว หรือทะลุ 5 ล้านล้านบาทใน 5 ปี พร้อมชง ครม.ไฟเขียว ชี้ค้าแบบบีทูซีของไทยสูงสุดในอาเซียน

*หุ้นเด่นวันนี้

• ZIGA (บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยราคาขาย IPO ที่ 5.90 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่า ZIGA โดยอิง PE กลุ่มวัสดุก่อสร้างและ ARROW ที่ 18 เท่า ได้ราคา 9.80 บาท คาดกำไรปีนี้ +26% Y-Y อยู่ที่ 284 ล้านบาท ส่วนปี 2561-2562 คาดโตเฉลี่ย 26% ต่อปี จากการเพิ่มสินค้าใหม่และการขยายกำลังการผลิต

บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-zinc ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนที่มีคู่แข่งน้อยราย และสามารถใช้กับงานก่อสร้างที่หลากหลาย

• MILL-W4 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 405,440,911 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.20 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 12 กรกฎาคม 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 ก.ย. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 11 ก.ค. 2565
• BEAUTY (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 17 บาท Upgrade ปรับประมาณการกำไรขึ้น 13.6-12.5% ในปี 2560-2561 มองการเติบโตในธุรกิจส่งออกเพิ่มเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ขณะที่การเติบโตยอดขายในประเทศยังดำเนินต่อไปจากทั้งขายผ่าน Store ตัวเอง และ Modern Trade ที่เพิ่มขึ้น
• MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 43 บาท ยังคาดกำไร 2H60 เติบโตโดดเด่น Y-Y เพราะรายได้โรงแรมโตดีทุกภูมิภาค โดยเฉพาะ 3Q60 ที่เป็น High Season ของ Tivoli ในโปรตุเกส ขณะที่ ธุรกิจอาหารแม้จะถูกฉุดตามกำลังซื้อ แต่ถูกชดเชยด้วยการควบคุมต้นทุน ทำให้คาดอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยจะขยายตัวต่อเนื่องถึงปี 2561