นางสาวปัทมิกา พงศ์สูรย์มาส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการเงิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 61 จะเติบโตในระดับสูงถึง 20-25% จากการรับรู้รายได้ศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่งเต็มที่ทั้งปีหลังจากเปิดดำเนินการในปีนี้ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา เปิดในไตรมาส 3/60 และ เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย เปิดในไตรมาส 4/60 พร้อมทั้งเตรียมเปิดศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่งในปี 61 คือ เซ็นทรัลภูเก็ต เฟส 2 ซึ่งเลื่อนไปจากปีนี้, เซ็นทรัลมาเลเซีย และอีก 1 แห่งในประเทศยังอยู่ระหว่างการเตรียมการ
นอกจากนี้ บริษัทยังจะทยอยรับรู้รายได้อีกราว 3,000 ล้านบาท จากการโอนคอนโดในจังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น และ ระยอง ซึ่งได้ขายหมดแล้ว ในขณะเดียวกันยังเตรียมเปิดคอนโดมิเนียมอีก 3 แห่ง มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/60 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และ นครราชสีมา ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า
ส่วนผลประกอบการในปีนี้ บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 6% จากปีก่อน 30,113.84 ล้านบาท โดยจะมีอัตราการเช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 90% ขณะที่บริษัทได้มีการปรับอัตราค่าเช่าขึ้นในศูนย์การค้าใหม่ที่มีการรีโนเวทแล้วเสร็จ และมีการปรับค่าเช่าโดยรวมขึ้นเฉลี่ย 5% ต่อปี
บริษัทตั้งเป้าจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้น และ EBITDA Margin ไว้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 49% และ 54% ตามลำดับ โดยบริษัทเน้นการบริหารจัดการต้นทุนด้านค่าสาธารณูปโภคต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของค่าไฟฟ้าที่มีสัดส่วน 30% ของต้นทุนทั้งหมด ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมที่จะติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อป ในสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลอุบล เพิ่มเติม
นางสาวปัทมิกา กล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPNRF ไปเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) จะมีการเรียกประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 28 ส.ค.นี้ และยื่นขออนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ หลังจากนั้นบริษัทมีแผนจะขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT เพิ่มเติม คือ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พัทยาบีช และ โรงแรมฮิลตัน เพื่อเพิ่มขนาดสินทรัพย์อีก 11,908 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 29,000 ล้านบาท