ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,569.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.09 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 36,269.92 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,572.11 จุด และแตะจุด ต่ำสุดที่ระดับ 1,567.21 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 601 หลักทรัพย์ ลดลง 581 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 400 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้วอลุ่มเทรดค่อนข้างบาง เนื่องจากนักลงทุนยังเฝ้ารอติดตามปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ตลาดฯไม่ค่อยเคลื่อนไหว (take action) มากนัก โดยตลาดฯ รอผลคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจกระทบ Sentiment ได้ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ยังเกาะติดการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าทั้งประธานเฟด และประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะออกมาพูดเรื่องสำคัญที่ส่งสัญญาณในด้านต่าง ๆ ทั้งสองประเด็นจะเป็นแรงส่งทำให้เกิดความผันผวนในตลาดฯในช่วงกลางสัปดาห์นี้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ทิศทางไม่ชัดเจน แต่ยังมีกลุ่ม Oil&Gas ที่ Outperform เนื่องจากราคาน้ำมัoดีดตัวขึ้นแรง หลังจากเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ปิดหน่วยกลั่นน้ำมันย่อยแห่งหนึ่ง และแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานมีจำนวนลดลง ทำให้วันนี้กลุ่มน้ำมันแข็งแกร่งเป็นพิเศษ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงยัง Wait & See พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,887.61 ล้านบาท ปิดที่ 51.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,930.02 ล้านบาท ปิดที่ 393.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 1,785.50 ล้านบาท ปิดที่ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 872.79 ล้านบาท ปิดที่ 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 724.72 ล้านบาท ปิดที่ 18.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท