PTT ยันนำ PTTOR เข้าตลาดหุ้นตามแผน เร่งทำข้อเสนอส่งบอร์ด PPP พิจารณาก่อนโอนทรัพย์สิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 22, 2017 13:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ความคืบหน้าการนำบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยังคงเป็นไปตามแผน โดยหากสามารถโอนทรัพย์สินให้กับ PTTOR ได้ก่อนวันที่ 1 ธ.ค.60 ก็จะสามารถนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนภายในปี 61 แต่หากการโอนสินทรัพย์ ไม่ทันวันที่ 1 ธ.ค.60 การนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนคงต้องเลื่อนไปเป็นปี 62

ขณะที่ปัจจุบัน ปตท.อยู่ระหว่างการจัดทำข้อเสนอการนำทรัพย์สินที่ปตท.เช่าจากส่วนราชการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่ ปตท.เช่าอยู่ ต้องเปลี่ยนมาให้ PTTOR เป็นคนเช่าช่วงแทน ทำให้ต้องนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) เพื่อพิจารณาต่อไปด้วย

"ขณะนี้อยู่ระหว่างทำเล่มที่จะเสนอผ่านกระทรวงพลังงานแล้วไป สคร. ก่อนจะส่งต่อไปยังคณะกรรมกา PPP คือเราต้องทำโปรเจ็คต์เข้าไป เป็น proposal เวลาเสนอกระทรวงพลังงานผ่าน สคร. ทันไม่ทันขึ้นกับการประชุมคณะกรรมการ PPP"นายอรรถพล กล่าว

นายอรรถพล กล่าวว่า สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการ PPP เป็นเรื่องของการเช่าช่วงทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับส่วนงานราชการ แต่ในส่วนการโอนทรัพย์สินของ ปตท.ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก ซึ่งมีอยู่เกือบ 10 บริษัทนั้นไม่จำเป็นต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการ PPP อย่างไรก็ตาม มูลค่าการโอนทรัพย์สินทั้งหมดอาจจะต้องมีการทบทวนใหม่อีกครั้งในช่วงใกล้เวลาโอนจากปัจจุบันที่มีมูลค่าเบื้องต้นอยู่ที่ราว 1.2 แสนล้านบาท

สำหรับการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) นั้น ปตท.ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด และยังมองว่าเปิดเสรียังนับเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้ราคา LPG สะท้อนตามราคาตลาดและมีการแข่งขันอย่างเสรี ส่วนพื้นที่คลัง LPG ที่เขาบ่อยา จ.ชลบุรี ซึ่งมีศักยภาพรองรับ LPG ได้ 2.5 แสนตัน/เดือนนั้น ปัจจุบันมีอัตราการใช้ไม่ถึง 50% หลังจากการนำเข้า LPG ลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน ปตท.อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ค้ารายอื่นที่สนใจจะเช่าใช้คลัง LPG ดังกล่าว

ส่วนยอดขายธุรกิจน้ำมันรวมทั้งในส่วนของอุตสาหกรรม,น้ำมันเครื่องบิน และค้าปลีก ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ปตท.ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดในระดับ 40.7-40.8% เพิ่มขึ้นราว 1% โดยมีปริมาณขายรวม 9,840 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 4.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าตลาดรวมของประเทศที่มียอดขายน้ำมันรวม 25,690 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 1.5% โดยยอดขายของธุรกิจน้ำมันของ ปตท.เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มทั้งเบนซิน ,ดีเซล, น้ำมันเครื่องบิน ยกเว้น LPG ที่มียอดขายลดลง 0.6% แต่ยังต่ำกว่าเมื่อเทียบกับตลาดรวมที่มียอดขาย LPG ลดลง 2% เมื่อพิจารณาเฉพาะการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมัน ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ปตท.มียอดขายน้ำมันดีเซล ลดลง 1% แต่เบนซิน เพิ่มขึ้น 4%

ขณะที่ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่ายอดขายน้ำมันของทั้งประเทศน่าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมาก โดยคาดว่าตลาดรวมน่าจะยังเติบโตในระดับ 1-2% เช่นเดียวกับครึ่งปีแรก แม้ว่าในช่วงเดือน ต.ค.ที่ปกติเป็นช่วงไฮซีซั่น แต่ในปีนี้อาจจะมียอดขายลดลงบ้างก็ตาม ขณะที่ราคาน้ำมันดิบน่าจะยังทรงตัวระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันมากนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ