นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บิ๊กคาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการรอติดตามยอดขายในช่วงครึ่งหลังของไตรมาส 3/60 เพื่อประเมินว่ายอดขายทั้งปีจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10-15% หรือไม่ หลังจากไตรมาส 2/60 ยอดขายลดต่ำลงอย่างผิดปกติ จากผลกระทบกำลังซื้อชะลอตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้ภาพรวมยอดขายในขณะนี้ยังทรงตัว
ทั้งนี้ ปกติไตรมาส 3 จะเป็นช่วงที่ยอดขายจะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 2 อยู่แล้ว แต่ในปีที่ผ่านมาช่วงไตรมาส 3/59 ยอดขายหดตัวอย่างรุนแรง ดังนั้น ยอดขายในไตรมาส 3/60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนก็น่าจะดีกว่ามาก รวมทั้งบริษัทปรับกลยุทธ์ด้วยการเร่งจัดงาน BIG CAMERA BIG PRO DAYS ให้เร็วขึ้นมาเป็นในเดือน ก.ค.จากปกติที่จะจัดในเดือน ก.ย.และสามารถทำยอดขายได้ค่อนข้างดี น่าจะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ในไตรมาสนี้ แต่ส่วนหนึ่งอาจจะกระทบกับยอดขายหน้าร้านในช่วงดังกล่าวด้วย จึงต้องรอดูผลอีกครั้ง
ประกอบกับ บริษัทได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์กล้องรายใหญ่ในการระบายสต็อกสินค้า เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อรายได้ เนื่องจากในไตรมาส 2/60 บริษัทได้รับผลกระทบจากการบันทึกด้อยค่าสินค้าคงคลัง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กำไรหดตัวลงเมือเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากสามารถระบายสต็อกได้ดีก็จะทำให้บริษัทสามารถบันทึกกลับรายการดังกล่าวเข้ามาในไตรมาสนี้ และผู้ผลิตกล้องหลายค่ายที่ก็เตรียมออกสินค้าใหม่มาวางตลาด โดยเฉพาะรุ่นที่ได้รับความนิยมออกมาวางตลาดในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า ขณะที่บริษัทยังมองหาสินค้าแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาขายเพิ่มขึ้นด้วย
"ปกติ Q2 ก็เป็นช่วงโลว์ของทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้ผิดปกติมาก จากที่ยอดขายเคยค่อย ๆ ลดลงจากช่วงไฮในไตรมาส 1 แต่ปีนี้หลังสงกรานต์ก็วูบไปเลย น่าจะเป็นเพราะกำลังซื้อหดหายไป ไม่ใช่เพราะ Trend กล้องไม่ดี เพราะยอดขายในงานใหญ่ของเราก็ยังดี กล้องหลายค่ายก็ยังเตรียมออกรุ่นใหม่อีกมาก"นายธนสิทธิ์ กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังคาดหวังว่ารัฐบาลจะเตรียมมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวในช่วงหลังจากผ่านพ้นพระราชพิธีสำคัญในเดือน ต.ค.ไปแล้ว เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตไปข้างหน้า ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการเหล่านั้นทำให้การเติบโตเพิ่มขึ้นจากปกติที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของปี เนื่องจากสินค้ากล้องกับการท่องเที่ยวมักจะเติบโตไปด้วยกัน แต่ก็ยังเชื่อว่าในช่วงเดือน ต.ค.ก็เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมองว่าจะต้องมีการถ่ายภาพเพื่อบันทึกช่วงเหตุการณ์สำคัญด้วย
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่บริษัทจะเดินหน้าตามแผนงานที่กำหนดไว้ ด้วยการขยายธุรกิจในส่วนของ Printing เพื่อรุกตลาดมากขึ้นด้วยการเพิ่มจำนวนสาขา วันเดอร์ โฟโต้ เป็น 10 สาขาภายในปี 61 จากปัจจุบัน 3 สาขา พร้อมทั้งเตรียมนำเครื่องปริ้นท์ภาพ 250 เครื่องเข้าไปติดตั้งให้ทุกสาขาของบิ๊กคาเมร่าเพื่อตั้งเป็นจุดให้บริการย่อยด้วย หลังจากได้นำเครื่องมาลองติดตั้งดูแล้วบางส่วนได้รับผลตอบรับที่ดี
พร้อมกันนั้น บริษัทยังรุกขยายธุรกิจร้านขายโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง หลังจากยอดขายในช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้ดีกว่าคาด โดยจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นและสร้างจุดแข็งของร้าน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าผลักดันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Mobile เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 15% ภายในปี 61 จากปัจจุบันอยู่ที่ 8% ขณะที่ธุรกิจ Printing มีสัดส่วนราว 2% และกล้องถ่ายภาพยังเป็นธุรกิจหลักที่ 90%