หุ้น SYNTEC ราคาขยับขึ้น 2.00% มาอยู่ที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 19.39 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.47 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.05 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.15 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.05 บาท
บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) แม้ปีนี้คาดกำไรจะหดตัวจากฐานปีก่อนที่สูง แต่จะกลับมาโตอีกครั้งในปี 61 หลังบริษัทยังมี Backlog สูงซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องได้อีก 2 ปี อีกทั้งราคาหุ้นยังมี Upside 14.0% จากมูลค่าพื้นฐานปี 60 ที่ 5.70 บาท (อิง PER12x) และคาดให้ Div. Yield ปีนี้ 2.8%
จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ สรุปประเด็นสำคัญจากผู้บริหาร SYNTEC ดังนี้ 1) ช่วง H2/60 อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจรับเหมาจะลดลงมาที่ระดับ 13-15% จากช่วง H1/60 ที่ 20.8% หลังมีการกันสำรองค่าใช้จ่าย Defect & Error เพิ่มขึ้นจากการเริ่มก่อสร้างหลายโครงการใหม่ในช่วง 3Q60
2) สิ้นเดือน มิ.ย.60 มี Backlog ในมือ 39 โครงการ มูลค่ารวม 1.39 หมื่นล้านบาท ซึ่งรองรับรายได้ราว 2 ปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการก่อสร้างตึกสูงในกทม. 32 โครงการ บวกกับมีโครงการอยู่ระหว่างประมูลอีก 22 โครงการ มูลค่ารวม 1.41 หมื่นล้านบาท
และ 3) ธุรกิจ Service Apartment ในส่วนของ โครงการ The Eight Thonglor (ถือหุ้น 60%) ได้มีการทยอยรีโนเวตห้องพักโรงแรมตั้งแต่ช่วง H1/60 และคาดจะรีโนเวตจนครบทุกห้องในช่วง Q2/61 ทำให้ช่วง H1/60 บริษัทมีรายได้จากโครงการนี้เพียง 117 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดไว้ 16% แต่ยังคิดเป็นเพียง 0.3% ของรายได้รวม ซึ่งยังไม่ได้มีนัยฯ
แม้คาดช่วง H2/60 SYNTEC จะมีกำไรปกติ 239 ล้านบาท หดตัว 53.4% HoH ด้วยแรงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจรับเหมาที่คาดปรับลงเป็น 13.9% จาก 20.8% ในช่วง H1/60 หลังมีการสำรองค่าใช้จ่าย Defect & Error เพิ่มขึ้นจากเริ่มก่อสร้างโครงการใหม่ในช่วง Q3/60 อีกทั้งปัจจุบันมีการแข่งขันที่รุนแรงในการประมูลงานก่อสร้างคอนโด ซึ่งคาดจะกดดันให้ปี 60 มีกำไรปกติ 754 ล้านบาท หดตัว 7.2%YoY แต่คาดกำไรจะพลิกโตอีกครั้งในปี 61 ราว 5.4%YoY สู่ระดับ 794 ล้านบาท จากทยอยรับรู้งานก่อสร้างคอนโดต่อเนื่อง หลังมี Backlog ในมือกว่า 1.39 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ปรับคำแนะนำเพิ่มเป็น "ซื้อเก็งกำไร"พร้อมราคาเหมาะสมใหม่ที่ 5.95 บาท สูงกว่าราคาปิดล่าสุด 19% ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 60 และ 61 จาก 751 ล้านบาท และ 784 ล้านบาทสู่ 953 ล้านบาท และ 943 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งมีอัตราการเติบโต 9% และ -1% ตามลำดับ
โดยคาดว่าบริษัทมีรายได้จากการก่อสร้างได้ตามเป้าหมายที่ 7.8 พันล้านบาทเนื่องจากมีงานในมือสูงถึง 1.39 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ H1/60 คิดเป็น 53% ของประมาณการ โดยในช่วง H2/60 รายได้จากการก่อสร้างมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเนื่องจากมีโครงการที่เริ่มก่อสร้าง 8 โครงการ และมีโครงการใกล้แล้วเสร็จ 11 โครงการจากโครงการก่อสร้างทั้งหมด 39 โครงการ (ปกติโครงการเริ่มก่อสร้างและโครงการใกล้แล้วเสร็จจะรับรู้รายได้น้อยกว่าการก่อสร้างช่วงกลางโครงการ)
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น H1/60 สูงถึง 20.8% ซึ่งสูงกว่าที่เราประเมินไว้ที่ 18.5% เนื่องจาก Backlog เป็นงานในอดีตซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับงานประมูลใหม่ในปัจจุบัน อีกทั้งบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพและลดความบกพร่องของงานได้ดีขึ้น
บริษัทเน้นขยายฐานรายได้การให้บริการเพิ่มเติมในอนาคต H1/60 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 200 ล้านบาทเติบโต 56%YoY เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงการ The 8 Thonglor (SYNTEC เข้าลงทุน 60% ตั้งแต่ พ.ค.59) เต็มปีซึ่งมีพื้นที่ค้าปลีก 6 พัน ตร.ม. และมีโรงแรมอีก 148 ห้อง โดยในปีนี้ผู้บริหารคาดว่าจะเข้าลงทุนในรีสอร์ทตามหัวเมืองท่องเที่ยวทั้งจ.กระบี่และสมุยเพิ่มเติม เพื่อหนุนให้รายได้จากการให้บริการเติบโตอย่างต่อเนื่องและลดความผันผวนจากรายได้ก่อสร้าง
นอกจากนี้มีแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ภายในปี 63 โดยเตรียมขายโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ทั้ง The Dutchess(หลังสวน) Citadine (ศรีราชา) The 8 Thonglor และโครงการระหว่างก่อสร้าง Somerset (ศรีราชา) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ Q3/61 เพื่อนำเงินมาต่อยอดการลงทุนเพิ่มในอนาคต