บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดแผนร่วมมือ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ร่วมทุนพัฒนา 3 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 3/60 ขนาดรวมกันกว่า 1,600 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 6,100 ล้านบาท ในงานอีเว้นท์ใหญ่ "My Life , My Origin" ระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ซึ่งทั้ง 3 โครงการจะนำ Know How ของโนมูระ คือ Luxmore มาเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการ
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI กล่าวว่า โนมูระ เรียลเอสเตทฯ ได้ร่วมลงทุนกับ ORI จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 8.6 พันล้านบาท โดย 3 โครงการแรกที่ร่วมทุนจะเปิดขายในไตรมาส 3/60 ได้แก่ โครงการไนท์บริดจ์ ไพรม์ รัชโยธิน จำนวน 334 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1.6 พันล้านบาท โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช จำนวน 601 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2.5 พันล้านบาท และ โครงการไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง จำนวน 685 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2 พันล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 6.1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่ายอดพรีเซลจาก 3 โครงการมีกว่า 4 พันกว่าล้านบาท หรือไม่ต่ำกว่า 50% โดยโครงการที่อ่อนนุชคาดว่าจะมีชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจ
ส่วนอีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมที่ร่วมทุนกันซึ่งมีมูลค่าโครงการ 2.5 พันล้านบาทคาดว่าจะเปิดขายได้ในกลางปี 61 ซึ่งโนมูระ เรียลเอสเตทฯ เข้าถือหุ้น 49%
นายพีระพงศ์ กล่าวว่า ทางโนมูระ เรียลเอสเตทฯ ยังมีความสนใจเข้าร่วมทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นนอกเหนือจากโครงการคอนโดมิเนียม ได้แก่ โครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ โรงแรม และอาคารสำนักงาน ซึ่ง ORI ได้เตรียมโครงการไว้อยู่ก่อนนี้แล้ว โดยขณะนี้ได้มีการหารือร่วมกัน คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
"ทางโนมูระฯ สนใจเข้าร่วม 2-3 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า กำลังศึกษากันอยู่คาดว่าจะสรุปได้ปลายปีนี้หรือไม่ก็ต้นปีหน้า"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI กล่าว
ด้านนายเอย์จิ คุสึคาเขะ ประธานกรรมการ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล๊อปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทวางแผนเติบโตในระยะกลางและระยะยาว ในปีงบประมาณ 59-67 (สิ้นสุดมี.ค.68) ด้วยการลงทุนในต่างประเทศ มีงลงทุน 3 แสนล้านเยน (ราว 9.06 หมื่นล้านบาท) โดยเน้นการลงทุนในประเทศแถบเอเชียเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันได้ลงทุน 4 เมือง 4 ประเทศ ได้แก่ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม(ลงทุน 12.5%) , เมืองซินโย่ว ประเทศจีน(ลงทุน 30%) , เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ (เข้าลงทุน 40% งบ 8 พัน- 1หมื่นล้านเยน) และ กรุงเทพ ในไทย โดยในไทย เป็นประเทศที่ 4 ที่เข้ามาลงทุน และใช้เงินลงทุนมากที่สุดกว่า 1 หมื่นล้านเยนจากยอดลงทุนแล้ว 3 หมื่นกว่าล้านเยน
สาเหตุที่ตัดสินใจเลือกออริจิ้นฯ เป็นพันธมิตรลงทุนในไทยนั้น เนื่องจากออริจิ้นฯ เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาเพียงประมาณ 8-9 ปี แต่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นบริษัทที่มียอดขายปีละมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าออริจิ้นฯ เป็นบริษัทที่เข้าใจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้าใจทำเล ความต้องการผู้บริโภค และสามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในไทยได้ ประกอบกับออริจิ้นฯ มีวิสัยทัศน์ขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร สอดคล้องกับทิศทางของโนมูระฯ ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร
"เราค่อนข้างมั่นใจโครงการคอนโดมิเนียมของออริจิ้นเป็นอย่างมาก เรามองว่า ออริจิ้น เป็นบริษัทเติบโตก้าวกระโดดธุรกิจ ทางโนมูระ เรียลเอสเตทฯมีแผนลงทุนร่วมกับออริจิ้นมากขึ้น การร่วมลงทุนครั้งนี้ เป็นแบบ win win เป็นจังหวะเหมาะที่เข้ามาลงทุน"นายเอย์จิกล่าว
ทั้งนี้ โนมูระฯ มองแนวโน้มตลาดอสังริมทรัพย์ในกรุงเทพยังสามารถเติบโตอย่างมีเสถียรภาพได้ในระยะยาวมองว่าเป็นการลงทุนที่ดีที่สุด เพราะมีกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการเติบโตเชิงปริมาณสู่การเติบโตเชิงคุณภาพ แม้ว่าขณะนี้จะมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่นเข้ามาในไทยแล้ว และโนมูระ เรียลเอสเตทฯเพิ่งจะเข้ามา แต่เชื่อว่าจะนำความแตกต่างที่มีอยู่ทั้งโนว์ฮาว การสร้างตลาดในไทย ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในไทยยังไม่มี
นอกจากโครงการคอนโดมิเนียมแล้ว ทางโนมูระ เรียลเอสเตทฯ กำลังมองหาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์อื่น ได้แก่ อาคารสำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ มีความเป็นไปได้ที่จะร่วมลงทุน ส่วนโครงการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ก็มองลู่ทางการลงทุนไว้เช่นกัน โดยจะร่วมมือลงทุนกับทางออริจิ้นฯ ด้วย