โบรกฯแนะ"ซื้อ"PTTGC ผลงาน H2/60 สดใสจากค่าการกลั่นสูง-ผลิตเพิ่ม-โอนธุรกิจปิโตรฯ PTT เร็วกว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 25, 2017 14:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) มองผลการดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้ จะกลับมาสดใสหลังจากผ่านระดับต่ำสุดของปีในช่วงไตรมาส 2/60 ที่ทำกำไรสุทธิได้เพียง 6.6 พันล้านบาท เนื่องจากค่าการกลั่น (GRM) ที่ยืนอยู่ในระดับสูง และการใช้อัตรากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจปิโตรเคมี หลังจะมีโรงงานหยุดซ่อมบำรุงน้อยกว่าในช่วงครึ่งปีแรก

ตลอดจนการรับโอนธุรกิจปิโตรเคมีของบมจ.ปตท.(PTT) ได้เร็วกว่าที่คาดทำให้รับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นได้เกือบเต็มช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะช่วยชดเชยผลกระทบจากส่วนต่าง (สเปรด) ของธุรกิจอะโรเมติกส์ที่อ่อนตัวลงจากกำลังการผลิตใหม่ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สเปรดธุรกิจโอเลฟินส์ยังทรงตัวได้

นอกจากนี้ คาดว่าระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ฟื้นตัวขึ้นจากระดับปิด ณ สิ้นไตรมาส 2/60 และยังยืนอยู่ในระดับปัจจุบันน่าจะทำให้สิ้นปีนี้อาจไม่มีผลขาดทุนจากสต็อก(Stock loss) หรือมีความเสี่ยงต่อการรับรู้ Stock loss ที่ลดลง

ราคาหุ้น PTTGC ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 74.00 บาท ลดลง 0.23 บาท (-0.34%) ขณะที่ SET -0.03%

          โบรกเกอร์                     คำแนะนำ                ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เอเอสแอล                       ซื้อ                          80
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ                 ซื้อ                          82
          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์                 ซื้อ                          86
          บัวหลวง                         ซื้อ                          90
          ฟินันเซีย ไซรัส                    ซื้อ                          80
          ธนชาต                          ซื้อ                          86
          หยวนต้า (ประเทศไทย)             ซื้อ                          83
          ไอร่า                           ซื้อ                          82
          แอลเพิล เวลธ์                    ซื้อ                          82

นักวิเคราะห์ บล.แอเพิล เวลธ์ กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ PTTGC จะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/60 และต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/60 หลังจากผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/60 มาแล้ว เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 จะมีโรงงานหยุดซ่อมบำรุงน้อยลง และไม่มีหยุดซ่อมบำรุงเลยในช่วงไตรมาส 4 ทำให้การใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่สูง โดยค่าการกลั่นอ้างอิงในตลาดสิงคโปร์ ปัจจุบันยืนอยู่ระดับ 8-9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ปัจจัยบวกดังกล่าวเชื่อว่าจะชดเชยผลกระทบจากการสเปรดผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากปริมาณการผลิตใหม่ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ส่วนสเปรดผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ น่าจะยังอยู่ในระดับทรงตัว

"หุ้น PTTGC ที่ปรับขึ้นมาในช่วงนี้ก็ยังซื้อได้ เพราะผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีนี้นับว่าโอเคเลย เรามีมุมมองที่ดี จากการใช้กำลังการผลิตที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น โดยผลการดำเนินงานจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 และไตรมาส 4 หลังจาก bottom ไปแล้วในช่วงไตรมาส 2 จากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานที่ลดลงและในไตรมาส 4 ก็จะไม่มีการปิดซ่อมบำรุงเลย อีกทั้งในแง่โรงกลั่นก็ได้รับประโยชน์จากค่าการกลั่นที่สูง"นักวิเคราะห์ กล่าว

นักวิเคราะห์ กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ PTTGC ยังได้รับปัจจัยหนุนกำไรจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าซื้อและรับโอนกิจการปิโตรเคมีสายโพรเพน และสายพลาสติกชีวภาพ รวมถึงธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง ของ PTT เข้ามาในงบการเงินตั้งแต่ ไตรมาส 3/60 เป็นต้นไป เร็วกว่าที่คาดการณ์ว่าการรับโอนกิจการได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งประเมินว่าการรับโอนกิจการดังกล่าวจะทำให้ PTTGC มีส่วนแบ่งกำไรเข้ามาปีละ 2.4 พันล้านบาท หรือไตรมาสละ 600 ล้านบาท

ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นจากช่วงสิ้นไตรมาส 2/60 มายืนอยู่ในระดับปัจจุบันทำให้แนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อาจจะไม่มีปัญหา Stock loss ทั้งนี้ ประเมินกำไรสุทธิของ PTTGC ที่ระดับ 3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรจะเติบโตขึ้นอีก 12.3% ในปีหน้า ส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการรับโอนกิจการปิโตรเคมีของ PTT ได้เต็มปี รวมถึงการได้รับประโยชน์จากโครงการ MAX ซึ่งเป็นโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กรอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เริ่มดำเนินโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ไตรมาส 4/59

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการของ PTTGC ในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 2/60 ที่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากถูกกระทบจากแผนการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ ขณะที่ปัจจัยหนุนหลักสำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะมาจากการกลับมาเดินเครื่องอย่างเต็มที่ทั้งโรงกลั่น อะโรเมติกส์ และโอเลฟินส์ และคาดว่าราคาผลิตภัณฑ์โพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) จะคงยืนในระดับใกล้เคียงกับในช่วงไตรมาส 2/60 และค่าการกลั่นคาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากครึ่งปีแรกมีเพียงสเปรดผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่มีโอกาสอ่อนตัวลงเล็กน้อย

นอกจากนี้ PTTGC ยังคาดราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 60 จะอยู่ที่ประมาณ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สอดคล้องกับสมมติฐานของเมย์แบงก์ฯ ขณะที่แนวโน้มค่าการกลั่นในช่วงที่ผ่านมาได้ผลบวกจากการหยุดเดินเครื่องทั้งตามแผนและนอกแผน ทำให้ค่าการกลั่นเฉลี่ยครึ่งหลังของปีนี้ มีโอกาสปรับขึ้นเล็กน้อยจากครึ่งปีแรก ธุรกิจอะโรเมติกส์คาดว่าจะยังถูกกดดันจากกำลังการผลิตใหม่ ทำให้ส่วนต่างราคาทั้งพาราไซลีน (PX) และเบนซีน (BZ) ลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก

ส่วนธุรกิจโอเลฟินส์ได้ประโยชน์จากอุปสงค์ตามฤดูกาล ขณะที่ปริมาณโพรพิลีน (PE) คงคลังในประเทศจีนลดลงตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาหลังประเทศจีนประกาศลดการนำเข้า PE Scrap ปริมาณ 0.7-0.8 ล้านตัน สำหรับเอาไปทำการพลาสติกรีไซเคิล นอกจากนี้ผลประกอบการ PTTGC ปีนี้ยังมี Upside จากการรับโอนธุรกิจปิโตรเคมีจาก PTT เมื่ต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมาด้วย

บทวิเคราะห์บล.บัวหลวง ระบุว่า กำไรหลักของ PTTGC ในไตรมาส 3/60 จะเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน หนุนโดยค่าการกลั่นสูงขึ้น, อัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น, ช่วงไฮซีซั่นของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และการรับรู้รายได้จากสินทรัพย์ที่เพิ่งซื้อจาก PTT โดยค่าการกลั่นที่แข็งแกร่งนับจากต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบันมีแนวโน้มต่อเนื่องถึงไตรมาส 3/60 หนุนโดยอุปสงค์ในช่วงฤดูร้อนจากแถบตะวันออกกลาง และการหยุดโรงกลั่นนอกแผนของเชลล์ ขณะที่โรงกลั่น PTTGC จะดำเนินงานเต็มกำลังการผลิต

ขณะที่คาดหมายปริมาณขายปิโตรเคมีจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานลดลง อีกทั้งช่วงไฮซีซั่นของปิโตรเคมีจะหนุนให้ส่วนต่างราคาให้กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยอุปสงค์และอุปทาน ที่ดีขึ้นจะหนุนค่าการกลั่นและสเปรดปิโตรเคมีให้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรปี 60 ของ PTTGC เพิ่มขึ้น 16% มาอยู่ที่ 3.75 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนสมมติฐานค่าการกลั่นที่สูงขึ้น และอัตราการใช้กำลังการผลิตโพลีโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น ส่วนประมาณการกำไรหลักปี 60 คาดว่าจะเติบโต 76% จากปีก่อน หนุนโดยอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น, สเปรดราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และการรับรู้รายได้จากสินทรัพย์ที่เพิ่งซื้อจาก PTT น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ