ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,575.85 จุด ลดลง 0.11 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 32,003.29 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,577.61 จุด และแตะจุด ต่ำสุดที่ระดับ 1,571.13 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 467 หลักทรัพย์ ลดลง 654 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 488 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน แต่วอลุ่มเทรดถือว่าน้อยมาก ซึ่งตลาดฯได้มองข้ามปัจจัยการเมืองในประเทศไปแล้ว เพราะจากนี้ก็ต้องรออีก 1 เดือนที่ศาลฯจะอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าว ที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ตลาดฯก็หันไปโฟกัสปัจจัยอื่นต่อไป อย่างคืนนี้ก็ไปโฟกัสที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ นักลงทุนอาจจะชะล่าใจเกินไป โดยดูจากความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในเดือนธ.ค.มีแค่ 34% ซึ่งนักลงทุนให้น้ำหนักน้อยมาก และถ้าประธานเฟดพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังมีความเป็นไปได้อยู่ในปีนี้ ก็อาจทำให้น้ำหนักความน่าจะเป็นเพิ่มขึ้นมาได้อีก และจะมีความเสี่ยงต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) และ US Dollar ที่จะปรับตัวสูงขึ้น
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกมากกว่าลบ และตลาดในยุโรปที่เปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ก็อยู่ในแดนบวกกัน
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยสัปดาห์หน้าในวันที่ 31 ส.ค.จะมีหุ้นใหญ่อย่าง PTT, PTTGC ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯราว 3-4 จุด ปัจจัยนี้จะเป็นลบต่อตลาดฯ พร้อมให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีน, ยุโรป, สหรัฐฯ ซึ่งหากออกมาเหนือระดับ 50 ก็จะดีต่อสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนวันศุกร์หน้าก็จะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะต้องติดตามด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,530.08 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,441.87 ล้านบาท ปิดที่ 197.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,414.08 ล้านบาท ปิดที่ 182.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,305.92 ล้านบาท ปิดที่ 20.40 บาท ลดลง 0.10 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,189.55 ล้านบาท ปิดที่ 52.25 บาท ลดลง 0.50 บาท