นางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา กรรมการ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนธุรกิจที่ไม่ได้สร้างผลตอบแทนที่ดี และธุรกิจที่ไม่มีความถนัด 2-3 กิจการในเครือ หลังจากการตัดธุรกิจบางส่วนในช่วงที่ผ่านมาทำให้บริษัทมีผลขาดทุนลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุดได้เปิดทางให้กลุ่มสิริวัฒนภักดีเข้ามาร่วมทุนในธุรกิจวิทยุและทีวี ซึ่งจะต้องมีการปรับโครงสร้างใหม่ภายในไตรมาส 4/60
"ที่ผ่านมาจะเห็นพัฒนาการที่ดีของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้ขายธุรกิจที่เราไม่ถนัด และไม่สร้างผลกำไรให้เราออกไป ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออีกไม่มากแล้ว และเราเชื่อว่าในปีถัดไปคงเป็นปีที่ดีสำหรับเรา"นางสายทิพย์ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มสิริวัฒนภักดี จะลงทุน 1 พันล้านบาท เพื่อเข้าถือหุ้น 50% ในบริษัท จีเอ็มเอ็มแชนแนล เทรดดิ้ง จำกัด ในนามของบริษัท อเดลฟอส จำกัด ด้วยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ จีเอ็มเอ็มแชนแนล เทรดดิ้ง จำนวน 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท ขณะที่ GRAMMY จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพียง 2 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินราว 200 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ GRAMMY ถือหุ้นลดลงเหลือ 50%
นางสายทิพย์ ระบุว่า การที่อเดลฟอสเข้ามาเป็นดีลการเจรจาเข้ามาถือหุ้นเพิ่มทุน ไม่ใช่การขายหุ้นเดิม เนื่องจากมองเห็นศักยภาพ อัตราการเจริญเติบโตของจีเอ็มเอ็ม แชนแนลฯ เพราะมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน โดยเฉพาะความนิยมทางออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง อีกทั้งเชื่อมั่นในการบริหารงานของทีมงานบริษัท
จากนั้นจะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยภายใต้จีเอ็มเอ็ม แชนเนล เทรดดิ้ง จะประกอบด้วย บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด (GMM 25) ถือหุ้น 100% ,บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด ถือหุ้น 99.8% เป็นผู้บริหารการตลาดหาช่องทางการจัดจำหน่ายและดำเนินการผลิตรายการเพลง เกมส์โชว์และสาระบันเทิง ,บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ถือหุ้น 100% เป็นผู้เข้าร่วมประมูลเวลาและดำเนินการผลิตรายการวิทยุ คลื่น F.M. 89.0 Banana FM, คลื่น F.M. 91.5 Hot Wave, คลื่น F.M. 94.0 EFM และคลื่น F.M.106.5 Green Wave , บริษัท เอ-ไทม์ มีเดีย จำกัด ถือหุ้น 100% เป็นผู้ดำเนินการเข้าร่วมประมูลเวลาและให้เช่าช่วงสถานีวิทยุ และบริษัท เอ-ไทม์ ทราเวิลเลอร์ จำกัด ถือหุ้น 20%
ส่วนภายใต้ GRAMMY จะรับโอนหุ้นของกิจการใน บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย เข้ามา โดยจะเข้าถือหุ้นใน บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด เป็นผู้ผลิตรายการประเภทละคร เกมส์โชว์ วาไรตี้ รับจ้างผลิตละคร และรายการประกวดร้องเพลง ถือหุ้นในสัดส่วน 100% , บริษัท ทีน ทอล์ก จำกัด เป็นผู้ผลิตรายการประเภทวาไรตี้วัยรุ่น และรับจ้างผลิตรายการ สัดส่วน 100% และ บริษัท ซีเนริโอ จำกัด เป็นผู้ผลิตรายการประเภทละคร เกมส์โชว์ วาไรตี้ รับจ้างผลิตละคร และผลิตละครเวทีสัดส่วน 25% รวมทั้ง บริษัท บลิส พับบลิชชิ่ง จำกัด จดทะเบียนยกเลิกบริษัทแล้วและอยู่ระหว่างรอรับเงินคืนทุน
"จากที่ทางอเดลฟอสเข้ามาถือหุ้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะช่วยให้เรามีเงินเข้ามาพัฒนาบริษัทให้สามารถเติบโตต่อไปได้ และมีวงเงินที่จะเข้ามาพัฒนาคอนเทนท์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย เชื่อว่าหลังจากเพิ่มทุนและเสริมแกร่งด้วยคอนเทนท์ จะส่งผลให้อันดับเรตติ้งของช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ส่วน Synergy ที่จะมีร่วมกันต่อจากนี้คงต้องรอดูก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป" นางสายทิพย์ กล่าว
นางสายทิพย์ กล่าวว่า เมื่อปรับโครงสร้างหลังจากอเดลฟอสเข้ามาร่วมทุนแล้ว บริษัทก็จะวางแผนธุรกิจในปี 61 โดยเบื้องต้นบริษัทฯเตรียมขยายฐานผู้ชมในกลุ่มต่างจังหวัดให้เพิ่มมากขึ้น จากก่อนหน้านี้บริษัทเน้นกลุ่มคนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงเมืองใหญ่เป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่ลงไปในกลุ่ม Mass มากนัก เนื่องจากในกลุ่มนี้ยังมีการแข่งขันค่อนข้างสูง
สำหรับทิศทางผลประกอบการปีนี้บริษัทฯยังไม่สามารถคาดการณ์ได้แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกผลประกอบการจะออกมามีผลกำไรแล้วราว 12 ล้านบาท เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติจะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค. ซึ่งบริษัทฯต้องประเมินก่อนว่าจะกระทบมากน้อยเพียงได
"ผลประกอบการเรายังคงประเมินไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาเราก็พยานามที่จะประคับประคองให้ผ่านช่วงสถานการณ์ไม่ปกติไปก่อน และหลังจากนั่นเราก็จะมาเริ่มวางแผนธุรกิจสำหรับปี 61 ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นพัฒนาการที่ดีของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้ขายธุรกิจที่เราไม่ถนัด และไม่สร้างผลกำไรให้เราออกไป ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออีกไม่มากแล้ว และเราเชื่อว่าในปีถัดไปคงเป็นปีที่ดีสำหรับเรา"นางสายทิพย์ กล่าว
อนึ่ง GRAMMY แจ้งผลประกอบการปี 59 มีผลขาดทุนสุทธิ 520.15 ล้านบาท ลดลงจากปี 58 ที่ขาดทุน 1.15 พันล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 60 มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 252.97 ล้านบาท