นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 168 (KTFF168) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 กันยายน 2560 เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 อายุโครงการ 1 ปี ลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of China, China Construction Bank, China Marchant Bank และ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC ในสัดส่วน 19 % ส่วนที่เหลือลงทุนใน Agricultural Bank of China 10% และ Industrial and Commercial Bank of China (Asia) 14% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี
โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี และเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนมีโอกาสสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี ของธนาคารขนาดใหญ่ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.30-1.50% ต่อปี ทั้งนี้ ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15 %
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ (KT-India-D) ครั้งที่ 2/2560 สำหรับผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ในอัตรา 0.70 บาทต่อหน่วย โดยจะปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 1 กันยายน 2560 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 กันยายน 2560 ซึ่งในปีนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่กองทุน KT-India จ่ายเงินปันผล รวมเป็นเงิน 1.35 บาทต่อหน่วย และหากรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 รวมเป็นเงินที่จ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 3 ครั้ง คิดเป็นเงิน 1.85 บาทต่อหน่วย
แนวโน้มเศรษฐกิจอินเดีย ยังมีการขยายตัวที่ดีในระยะยาว และสกุลเงินมีเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้น โดยการลงทุนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอินเดียในปี 2560 กองทุน KT-India เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco India Equity Fund ที่มีกลยุทธ์การลงทุนมุ่งเน้นไปที่หลักทรัพย์ที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจการเติบโตภายในของประเทศอินเดียเป็นหลัก นโยบายที่รัฐบาลมุ่งเน้น คือ การปฏิรูปภายในอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นให้มีการกำกับดูแลที่ดีขึ้น ความสะดวกในการทำธุรกิจที่ง่ายขึ้น, การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย World Bank ได้คาดการณ์การเติบโต GDP อินเดีย ว่า จะเติบโตประมาณ 7.6% ในปี 2560 และ 7.7% ในปี 2561
สำหรับอัตราผลตอบแทนของกองทุน KT-India ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2560 YTD (3 ม.ค.-18 ส.ค.60) อยู่ที่ 32.06 % ย้อนหลัง6 เดือนอยู่ที่ 18.25% ย้อยหลัง9 เดือนอยู่ที่ 33.29% ย้อนหลัง1 ปี อยู่ที่ 20.56% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเทียบจาก MSCI India 10-40 index ND USD YTD อยู่ที่ 17.75% 6 เดือนอยู่ที่ 10.74% 9 เดือนอยู่ที่ 21.57% และ 1 ปีอยู่ที่ 11.78%
"ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ และผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต"นางชวินดา กล่าว