นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) กล่าวว่า แผนการดำเนินงานของธุรกิจน้ำมันนั้น บริษัทยังคงเป้าหมายการเพิ่มจำนวนสถานีบริการในปีนี้ให้ได้อยู่ที่ 1,800 สถานี ครอบคลุมทั่วประเทศ จากในปัจจุบันที่มีสถานีบริการ 1,506 สาขาทั่วประเทศ ส่วนในปี 61 บริษัทมุ่งเน้นในการขยายสถานีบริการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเพื่อให้บริการครอบคลุมกว่า 70% ของพื้นที่ รวมถึงการสร้างฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นผ่านโปรแกรมบัตรสมาชิก PT Max Card ที่วางเป้าหมายไว้ ที่ 7.6 ล้านสมาชิก ณ สิ้นปี 60 ขณะที่โครงการปาล์มคอมเพล็กซ์จะสามารถเริ่มเดินเครื่องได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 60
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการพึ่งพาธุรกิจน้ำมันเพียงอย่างเดียว โดยบริษัทไม่เพียงแต่มุ่งเน้นในการขยายธุรกิจ Non-oil ในสถานีบริการน้ำมันเพียงเท่านั้น แต่ยังขยายธุรกิจ Non-oil ไปยังนอกสถานีบริการอีกด้วย เช่น ร้านกาแฟ Coffee World และร้านอาหารในเครือ GFA
รวมถึงล่าสุดบริษัทได้ลงนามซื้อขายหุ้น และสัญญาร่วมทุนกับบริษัท ออโต้แบคส์ เซเว่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนใน Tokyo Stock Exchange ประเทศญี่ปุ่น และบริษัท สยาม ออโต้แบคส์ จำกัด โดยซื้อหุ้นของบริษัทสยาม ออโต้แบคส์ จำกัด สัดส่วน 38.26% มูลค่า 65 ล้านบาท ซึ่งหลังจากการเข้าซื้อหุ้นแล้ว จะทำให้ศูนย์บริการรถยนต์ AUTOBACS เป็นผู้ได้สิทธิเพียงผู้เดียวในการขยายศูนย์บริการในประเทศไทย ซึ่งบริษัทมุ่งหวังที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในภาพรวมของบริษัทฯให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯก็มีความมุ่งหวังที่จะเพิ่มสัดส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจ Non-oil ให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทฯตั้งเป้ามีสัดส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจ Non-oil อยู่ที่ 60% ภายในปี 65
“เรามีแผนระยะยาวในการเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรด้วยการขยายธุรกิจ Non-oil ทั้งในและนอกสถานีบริการ เพื่อที่จะสามารถมอบสินค้า และบริการให้กับลูกค้าได้ครบถ้วน และตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งในอนาคตธุรกิจ Non-oil จะมีบทบาทสำคัญต่อการทำกำไร ในขณะที่ธุรกิจน้ำมันในปีนี้เราประเมินว่าสถานการณ์ของค่าการตลาดได้ผ่านจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว และจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเรายังคงเป้าหมายในการเติบโตตามที่ได้วางไว้"นายพิทักษ์ กล่าว