ทั้งนี้ บริษัทจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมีวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ในการย้ายสำนักงานแห่งใหม่, ลงทุนในเทคโนโลยี, การตั้ง Learning Center, การลงทุนในบริษัทอื่น และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ฮิวแมนิก้า ให้บริการงานด้านทรัพยากรบุคคล (Human Resources Solutions : HR Solutions) ทั้งในส่วนการให้บริการรับช่วงบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและการจัดทำเงินเดือน (Human Resources and Payroll Outsourcing : HPO) การจำหน่ายและให้บริการติดตั้งระบบงานบริหารทรัพยการบุคคล (Human Resources System : HRS) และการให้บริการด้านการบริหารจัดการ บัญชีและการเงิน (Financial Solutions) ทั้งในส่วนการจำหน่ายและให้บริการติดตั้งระบบงานวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning : ERP) และให้บริการจัดทำบัญชีและการเงิน (Accounting and Finance Outsourcing)
ในปี 59 บริษัทได้เข้าซื้อ บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เอ้าท์ซอสซิ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด (POS) และบริษัท สำนักงานที่ปรึกษาทางธุรกิจและการบัญชี จำกัด (ABA) ในสัดส่วน 100% ของทุนชำระแล้วของทั้ง 2 บริษัท เพื่อขยายการให้บริการ โดย POS ถือเป็นผู้ให้บริการรับช่วงจัดทำเงินเดือน (Payroll Outsourcing) รายใหญ่รายหนึ่งในประเทศไทย ในขณะเดียวกันการเข้าซื้อกิจการ ABA ช่วยเพิ่มบริการของกลุ่มบริษัทในการให้บริการจัดทำบัญชีและการเงิน (Accounting and Finance Outsourcing) ทำให้บริษัทฯ สามารถให้บริการ Outsourcing ได้ครบวงจรมากขึ้น
ในช่วงปลายปี 59 บริษัทฯ ได้จัดตั้ง Humanica Asia Private Limited (HAP) ในสิงคโปร์ เมื่อ เพื่อรองรับความต้องการในการใช้งานซอฟต์แวร์ Humatrix ในประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซียและญี่ปุ่น โดยมีการ Localize ซอฟต์แวร์เพื่อให้เหมาะกับกฎหมายภาษี และกฎหมายแรงงานของแต่ละประเทศ
ผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.60) มีสินทรัพย์รวม 479.46 ล้านบาท หนี้สินรวม 209.90 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 269.56 ล้านบาท รายได้รวม 234.11 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 192.31 ล้านบาท กำไรสุทธิ 37.08 ล้านบาท
โครงการในอนาคต 1.ย้ายสำนักงาน ปัจจุบัน บริษัทและบริษัทย่อย มีพนักงานจำนวน 336 คน และมีสำนักงานอยู่หลายแห่งทั้งที่สาทรธานี ตึก 1 และตึก 2 รวมทั้งที่อาคาร Q House อโศก โดยใช้พื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 2,982 ตารางเมตร และจากการที่ธุรกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีแผนจะย้ายสำนักงานไปรวมอยู่ที่เดียวกัน โดยสำนักงานแห่งใหม่จะมีพื้นที่รวมประมาณ 5,000 ตารางเมตร คาดว่าจะสามารถย้ายไปสำนักงานแห่งใหม่ได้ภายในไตรมาส 2/61
2. การลงทุนและพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ การทำวิจัยและพัฒนาเพื่อที่จะสามารถให้บริการระบบHR and Payroll OutsourcingบนระบบCloud servicesได้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว สะดวกและง่ายต่อการเข้าถึง, การทำระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเสมือน สำหรับพัฒนาซอฟท์แวร์ ในการใช้งานบนระบบPrivateCloud Computingเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลความลับขององค์กร และ แผนพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบสารสนเทศสำรองที่มีอยู่ ให้สามารถกู้คืนระบบได้ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น
3. การก่อตั้ง Learning Center โดยจะมีการจัดหลักสูตรเพื่อเพิ่มพูนความรู้ต่างๆ เช่น หลักสูตร Payroll Process เพื่อให้เข้าใจถึงระบบการจ่ายเงินเดือนรวมทั้งขึ้นตอนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง, หลักสูตร Advance Excel, หลักสูตรการใช้ Humatrix ในการให้บริการ, หลักสูตร Sound Lab ในการพัฒนาภาษาอังกฤษ, หลักสูตรการ Coding เพื่อใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์, หลักสูตรการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบอไจล์, หลักสูตร Project Management คาดว่าจะสามารถเปิด Learning Center ได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2561
4. การลงทุนในธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัท โดยหลักเกณฑ์และกรอบการลงทุนสำหรับบริษัทฯ ที่จะเข้าร่วมลงทุนที่สำคัญเป็นดังนี้ เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการบริหารทรัพยารบุคคล, เป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคล, เป็นผู้ให้บริการที่ใช้ระบบการสื่อสารออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การธนาคาร และการลงทุน (Fintech) หรือ Startup ต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อบริการกับระบบทรัพยากรบุคคลที่บริษัทฯ ให้บริการ, เป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ บัญชีและการเงิน
ณ วันที่ 11 ส.ค.60 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 340 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 250 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 340 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 680 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 11 ส.ค.2560 คือ นายสุนทร เด่นธรรม ถือหุ้น 281,184,100 หุ้น คิดเป็น 56.24% ภายหลังจากขาย IPO ในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 41.35%, Hudson Asia Holdings Pte. Ltd. ถือหุ้น 122,025,600 หุ้น คิดเป็น 24.41% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 17.94%
บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลตามงบการเงินเฉพาะกิจการในแต่ละปี และภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย