(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้น ขานรับเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง-การเมืองคลี่คลาย,จับตาประมูลรถไฟทางคู่วันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 1, 2017 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศออกมาเมื่อวานนี้นั้นเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนที่กลับมาเป็นบวกได้ อีกทั้งกระแสทางการเมืองก็คลี่คลายลงแล้ว นอกจากนี้เงินทุนจากต่างประเทศก็เป็นบวกมากขึ้น

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน พร้อมให้ติดตามการประมูลรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ โดยในวันนี้จะมีการเสนอราคาสำหรับสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ซึ่งอาจจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯได้บ้าง ขณะที่ยังให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของทั่วโลก

พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,625 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,948.10 จุด เพิ่มขึ้น 55.67 จุด (+0.25%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,428.66 จุด เพิ่มขึ้น 60.35 จุด (+0.95%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,471.65 จุด เพิ่มขึ้น 14.06 จุด (+0.57%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 87.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.18 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 44.92 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 9.51 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.26 จุด

ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ ตลาดหุ้นมาเลเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฎิ้ลอัดฮา

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ส.ค.60) 1,616.16 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด (+0.17%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,870.70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ส.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 ส.ค.60) ปิดที่ 47.23 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ส.ค.60) ที่ 10.56 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.18 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 33.15 -33.25 จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยการบริโภคภาคเอกชนในเดือนก.ค.ยังขยายตัวแม้จะชะลอลงบ้าง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้ภาคเกษตรกรรมที่หดตัว 2.6% ในขณะที่ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นแต่ราคาตกต่ำ 15.6% เช่นเดียวกับการใช้จ่ายหมวดบริการเติบโตลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยว
  • นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีหนังสือมาถึงกรรมาธิการให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติม ทั้งต้องการให้เก็บและไม่ให้เก็บภาษี คลังจึงต้องการพิจารณากฎหมายนี้ให้จบ และจะให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2562 แม้ว่าจะมีเอกชนขอให้เริ่มบังคับใช้ช้ากว่านั้น
  • กระทรวงคมนาคมได้สั่งปรับแผนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร วงเงิน 1.21 แสนล้านบาท โดยเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนแบบพีพีพี จากเดิมรัฐลงทุน 100%
  • นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มั่นใจเม็ดเงินต่างชาติจะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสำคัญคือเศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวดี ประกอบกับกำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ประมาณ 3.5% รวมทั้งปีประมาณการว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีกำไรประมาณ 7% ซึ่งได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 มาแล้ว ดังนั้น แนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนจะดีขึ้น รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศที่นิ่ง ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากเกิดเหตุการณ์การยิงขีปนาวุธที่คาบสมุทรเกาหลี ทำให้หุ้นวิ่งเข้าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน
  • คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาปรับโครงสร้างค่าไฟใหม่ (ปี 2561-2565) โดยคาดว่าจะประกาศใช้ภายในปี 2561 ซึ่งโครงสร้างใหม่นั้นแผนการลงทุนของ 3 การไฟฟ้าจะมีความรัดกุมมากขึ้น รวมถึงจะมีการปรับปรุงค่าบริการรายเดือนในบิลค่าไฟที่ปัจจุบันเก็บบิลละ 38.22 บาท ให้ลดลง ซึ่งจะสะท้อนต้นทุนการลงทุนของ 3 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
  • วันนี้รฟท.จะเปิดประมูลโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ สัญญา 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ราคากลาง 7,721.13 ล้านบาท ส่วนสัญญา 2 ช่วงคลองขนานจิตร - ชุมทางจิระ เลื่อนประกาศชื่อผู้มีสิทธิเสนอราคา และเลื่อนวันประมูลออกไปก่อน เนื่องจากต้องรอความชัดเจนเส้นทางที่ต้องตัดผ่านชุมชนเมืองนครราชสีมา

*หุ้นเด่นวันนี้

  • III (บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สังกัดกลุ่มบริการ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ โดยเสนอราคาขาย IPO ที่ 4.80 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2561 เท่ากับ 5.40 บาท พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2 ปีข้างหน้าจะโตสูงเฉลี่ย 46% ต่อปี

บริษัทฯเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ทั้งทางอากาศ ทะเล บก และรับบริหารจัดการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศและในประเทศ รวมถึงให้บริการโลจิสติกส์สินค้าอันตรายที่ต้องมีความชำนาญสูง ด้วยธุรกิจโลจิสติกส์ที่เป็นขาขึ้นต่อเนื่อง จากการเปิด AEC การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ EEC และ E-Commerce ที่โตเร็ว

  • STEC (เอเอสแอล) "ซื้อ"เป้า 30 บาท ยังคงชอบกลุ่มรับเหมาก่อสร้างหลังประเด็นบวกต่อเนื่องหลังยังมีงานภาครัฐรอประมูลในช่วง 1-2 เดือน ประกอบกับการเสนอราคารถไฟทางคู่แบบ E-Auction ในต้นเดือนก.ย. ทั้งนี้ STEC อิง P/E17F 35.1 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ประมาณ 40.6 เท่า ประกอบกับคาดว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวขึ้นจากงานภาครัฐเป็นหลักหนุนด้วย STEC เองมี Backlog ในมือกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถหนุนกำไรในปี 2560-2561 ได้อย่างน้อยปีละกว่า 32-39%
  • WORK (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 84 บาท มองราคาขายโฆษณาเติบโตต่อเนื่องใน 2H60 จากการออกอากาศรายการยอดนิยม "The Mask Singer" Season ใหม่และรายการใหม่ "X-Factor" ที่มีเรทค่าโฆษณาอยู่ในระดับสูงได้ต่อเนื่อง รวมถึงรายได้ช่องทาง Online ที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ปรับประมาณการกำไรในปี 60 เพิ่มขึ้น 50%
  • ARROW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 19 บาท สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ ทั้งราคาเหล็กที่เริ่มชะลอการปรับขึ้น และภาษีที่มีแนวโน้มลดลงจากการเพิ่มสายการผลิตที่เพิ่งได้ BOI ขณะที่ยอดสั่งซื้อท่อร้อยสายไฟเร่งตัวขึ้นจน Backlog แตะ 770 ล้านบาท เพราะผู้รับเหมากลัว ARROW ปรับขึ้นราคาเหมือนต้นปี ส่วนการขยายธุรกิจไปผลิตอุปกรณ์ท่อ Post-tension โดยมองบวกเพราะคืนทุนเร็วไม่เกิน 2 ปี ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE2560-2561 เพียง 12-13 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ