นายภัทรพงศ์ พงศ์สวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนเพื่อแตกไลน์การผลิตสินค้าใหม่รองรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจ โดยยังไม่สรุปว่าจะเป็นลักษณะการสร้างแบรนด์ใหม่ หรือเข้าร่วมทุน แต่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเพื่อเป็นการกระจายรายได้ และลดการพึ่งพิงธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์มากจนเกินไป ภายหลังคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เตรียมยกเลิกระบบโควตาในอุตสาหกรรมน้ำตาล โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.ย.60
สำหรับแนวโน้มผลงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้อาจเติบโตไม่สูงเท่าครึ่งปีแรก เพราะปกติครึ่งปีแรกเป็นไฮซีซั่นธุรกิจ หลังจากปิดหีบและมีการขายน้ำตาลออกไปจำนวนมาก ซึ่งบริษัทคงเป้าหมายรายได้เติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,685.53 ล้านบาท หลังจากปีนี้ราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยอยู่ที่ 22 เซนต์/ปอนด์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 30% โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจน้ำตาล 75% ธุรกิจไฟฟ้า 10% ธุรกิจปุ๋ยและอื่น ๆ 15%
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปี 61 คาดว่ารายได้อาจจะปรับลดลงจากปีนี้ เนื่องจากขณะนี้ราคาขายน้ำตาลโลกเริ่มปรับตัวลดลง คาดว่าราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยจะอยู่ที่ 16-17 เซนต์/ปอนด์ ปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิตปี 60/61 จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 59/60 ที่ 2.2 ล้านตัน เพราะมีการขยายพื้นที่ปลูกอ้อยจาก 200,000 ไร่ มาอยู่ที่ 240,000 ไร่ เพราะเกษตรกรหันมาปลูกอ้อยมากขึ้น ซึ่งปริมาณอ้อยเข้าหีบเพิ่มขึ้นสามารถผลิตน้ำตาลได้ 33,000 ตัน/ปี จากปี 59/60 อยู่ที่ 25,000 ตัน/ปี
สำหรับแผนการลงทุนโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ กำลังการผลิต 20,000 ตันอ้อยต่อวัน คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนราว 5,000 ล้านบาท ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตร คาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงต้นปี 61
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ 3 รายที่จะเข้ามาต่อยอดในธุรกิจในโครงการน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เกรดพิเศษ และธุรกิจเอทานอล แต่ยังคงอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์และราคา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 4/60 นี้ เบื้องต้นกำหนดกรอบการลงทุนที่ 1,300-1,500 ล้านบาท